Display mode (Doesn't show in master page preview)

5 สิงหาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

  สถานการณ์ในประเทศ ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า (อาทิ สถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้ากับจีน การเจรจาการค้าระดับทวิภาคีกับญี่ปุ่น ความขัดแย้งประเด็นภาษีดิจิทัลกับฝรั่งเศส) สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าอิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติลำหนึ่งในอ่าวเปอร์เซีย รวมถึงสถานการณ์ BREXIT ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญวันนี้ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค.





เงินบาทตลาดในประเทศ อ่อนค่าลงปลายสัปดาห์ก่อน (2 ส.ค.) สอดคล้องกับแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ และการอ่อนค่าของสกุลเงินในภูมิภาคท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

ส่วนเช้าวันนี้ (5 ส.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 30.80-30.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ**  ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงอ่อนค่าลง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด





ตลาดหุ้นไทยปิดลบ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคจากประเด็นสงครามการค้า ประกอบกับมีแรงฉุดเพิ่มเติมจากสถานการณ์ในประเทศช่วงปลายสัปดาห์

ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยรวมปิดลบ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งล่าสุดทางการจีนได้ออกแถลงการณ์ว่าพร้อมออกมาตรการตอบโต้ที่จำเป็น หากแผนเรียกเก็บภาษีรอบใหม่ที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศไปก่อนหน้านี้มีผลบังคับใช้จริง






ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในตะวันออกกลาง ส่วนราคาทองคำนั้น แม้ราคาทองคำตลาด Spot จะขยับลงเล็กน้อย แต่ราคาทองคำในตลาดล่วงหน้าพุ่งสูงขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลง



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest