Display mode (Doesn't show in master page preview)

18 กรกฎาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

  ประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน การเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนปัจจัยสำคัญจากฝั่งเอเชีย น่าจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางเกาหลีใต้และธนาคารกลางอินโดนีเซีย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะรายงานในคืนนี้ ได้แก่ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนก.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์




เงินบาทตลาดในประเทศ ยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ วานนี้ (17 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิพันธบัตรไทยอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเช้าวันนี้ (18 ก.ค.) เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยกลับมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 30.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ** ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย หลังรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Beige Book) ระบุว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน 



 

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ประกอบกับมีแรงขายของนักลงทุนกลุ่มสถาบัน

ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยรวมปิดลบ ท่ามกลางความกังวลต่อความไม่แน่นอนในประเด็นการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแรงฉุดเพิ่มเติมจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทในกลุ่มขนส่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ยืดเยื้อ




ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง จากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ซึ่งปรับลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านคลายตัวลง หลังมีสัญญาณว่าการเจรจาของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า

 ส่วนราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการถือทองคำ ภายใต้สถานการณ์ไม่แน่นอนของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน



ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest