Display mode (Doesn't show in master page preview)

22 กรกฎาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

  การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน (แม้รายงานล่าสุด จะระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่ายมีการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างกันเป็นครั้งที่ 2) ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศที่สำคัญ น่าจะอยู่ที่ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย. และการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทที่จดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก




เงินบาทตลาดในประเทศแข็งค่าขึ้นวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ก.ค.) สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลงท่ามกลางกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟด

ส่วนเช้าวันนี้ (22 ก.ค.) เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับประมาณ 30.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ** ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลัง หลังตลาดประเมินว่า แม้จะมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในระยะใกล้ๆ นี้ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นการปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง ​





ตลาดหุ้นไทยปิดบวก สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน

ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน ตลาดฝั่งเอเชียปิดบวก โดยมีแรงหนุนจากคาดการณ์ถึงโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในเวลาต่อมา หลังตลาดประเมินว่า มีความเป็นไปได้น้อยลงที่จะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ อย่างรุนแรงในการประชุมเฟดเดือนนี้





ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังมีรายงานข่าวว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษ ส่วนราคาทองคำปรับลดลง สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาด

ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest