ปัจจุบัน นับได้ว่าไทยเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2557 ไทยมีส่วนแบ่งปริมาณการส่งออก HDD ในตลาดโลกกว่าร้อยละ 30.1 หรือคิดเป็นราว 180.9 ล้านชิ้น เป็นอันดับสองรองจากจีนซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดโลกราวร้อยละ 35.2 อย่างไรก็ดี การส่งออก HDD ของไทยนั่นอยู่ในภาวะถดถอย โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 2558 ยอดส่งออก HDD ไทย จะอยู่ที่ราว 175.9 – 181.8 ล้านชิ้น หดตัวร้อยละ 2.8 ถึงขยายตัวร้อยละ 0.5 จากปี 2557 ที่มียอดส่งออกประมาณ 180.9 ล้านชิ้น ซึ่งหดตัวร้อยละ 6.1 เนื่องจากการถดถอยของความต้องการคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของ HDD ส่งผลให้ความต้องการ HDD ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการแข่งขันจากเทคโนโลยีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดใหม่อย่าง SSD ซึ่งนิยมใช้ในอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบา และความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูง โดยความต้องการ SSD สำหรับคอมพิวเตอร์ จะมีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 34.2 ต่อปี จนถึงปี 2560
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Cloud computing และ Internet of Things ได้เพิ่มพูนความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในตลาดกลุ่มองค์กร และกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นกลุ่มองค์กรความต้องการเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ และกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคจึงเป็นตลาดที่ยังคงมีศักยภาพการเติบโตสำหรับ HDD ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า อุตสาหกรรม HDD ไทยในปัจจุบัน เน้นการผลิต Computer HDD ซึ่งมีความต้องการในตลาดโลกลดลงเรื่อยๆ ดังนั้น ไทยควรมุ่งความสนใจมาที่ Enterprise HDD และ Consumer Electronics HDD เพื่อให้ภาคการผลิตของไทยตอบสนองทิศทางความต้องการ HDD ในตลาดโลก ได้ดียิ่งขึ้น
แม้กระนั่น จากบทบาทที่สูงขึ้นของเทคโนโลยีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลใหม่อย่าง SSD ทั้งในตลาดหลักของ HDD และกลุ่มอุปกรณ์เครื่องใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ไทยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์จากที่มุ่งเน้นเพียงการผลิต HDD มาเป็นการผลิตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหลายประเภท เพื่อรองรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงในความต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลในตลาดโลก และลดความเสี่ยงจากการอิ่มตัวในอนาคตของเทคโนโลยี HDD ในตลาดองค์กร และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เชื่อว่า เทคโนโลยี Flash memory เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ดังนั้นแผนสนับสนุนการลงทุน และนโยบายพัฒนาทรัพยากรแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับความพยายามต่อยอดทางเทคโนโลยีของผู้ประกอบการภายในประเทศโดยมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทางเทคนิคให้กับบุคลากร จะนำมาซึ่งการพัฒนาและก่อตั้งสายการผลิต Flash memory ในประเทศไทยเพื่อก่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานในประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของไทยโดยรวม มีศักยภาพความพร้อมในการผลิต SSD ในอนาคต
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น