Display mode (Doesn't show in master page preview)

18 พฤษภาคม 2563

เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2563 หดตัว 1.8%...คาดทั้งปีเศรษฐกิจไทยหดตัวราว 5.0% หากไม่มีการระบาดซ้ำ (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3864)

คะแนนเฉลี่ย

​           เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2563 หดตัว  1.8% YoY หดตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ -4.0% YoY แม้ว่าภาคท่องเที่ยวจะเริ่มได้รับผลกระทบแต่การใช้จ่ายครัวเรือนยังสามารถขยายตัวได้ดี จากแรงหนุนของการซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่จำเป็นเพื่อรองรับการแพร่ระบาดของโรค ในภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ที่หดตัว 1.8%YoY มาจากปัจจัยลบหลายประการทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ภาวะภัยแล้ง และความล่าช้าของพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ส่งผลให้แรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจไทยแทบทุกตัวหดตัวลง ยกเว้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังขยายตัวได้ 3.0%YOY ซึ่งก็เป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราวจากการซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่จำเป็นก่อนการประกาศล็อกดาวน์ในเดือนเม.ย. ในขณะที่ทั้งปี 2563 ภาพรวมการใช้จ่ายครัวเรือนคาดว่าจะหดตัวที่ -1.5% ท่ามกลางภาวะการว่างงานที่เพิ่มขึ้นจากสถานประกอบการหยุดชั่วคราวในช่วงเดือนเม.ย. รวมถึงธุรกิจที่ทยอยปิดกิจการ ส่งผลต่อกำลังซื้อประชาชนและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยที่ลดลง โดยเฉพาะสินค้าคงทน

            ​แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายลงในไตรมาส 2/2563 และไม่มีการแพร่ระบาดซ้ำ แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะยังไม่สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้เร็ว เนื่องจาก แนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้เงื่อนไขการรักษาระยะห่างโดยเฉพาะในภาคบริการ จะทำให้ธุรกิจมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ในขณะที่รายรับถูกจำกัดด้วยทั้งกำลังซื้อของประชาชน รวมถึงเงื่อนไขการรักษาระยะห่าง นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศยังเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยต้องหันกลับมาพึ่งพิงตลาดในประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเป็นหลัก โดยมีมาตรการภาครัฐที่กำลังดำเนินการอยู่จะช่วยประคับประคองการดำรงชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้ จากการประเมินภาพดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัวลึกกว่าการหดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในไตรมาสที่ 2 จะหดตัวลึกที่สุดราว -10% ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2563 หดตัวราว -5.0% ทั้งนี้ หากไม่มีการระบาดที่รุนแรงอีกระลอก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเทียบไตรมาสต่อไตรมาสในช่วงครึ่งปีหลังอาจเป็นบวกได้ เนื่องจากมีการปลดมาตรการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังไม่กลับมาเป็นปกติดังเดิม ดังนั้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอาจยังคงติดลบอยู่เล็กน้อย


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม