Display mode (Doesn't show in master page preview)

2 พฤษภาคม 2562

Econ Digest

เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม...ตามคาด

คะแนนเฉลี่ย

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่กรอบ 2.25-2.50% ตามเดิม (ประชุมวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.) พร้อมกับส่งสัญญาณว่า จะยังไม่ขึ้น และยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ... ซึ่งจากผลการประชุมเฟดรอบนี้ ทำให้มองว่า

1. เฟดยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย เพราะว่าเฟดไม่ได้ให้น้ำหนักมากนักกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างดีซึ่งเป็นเรื่องผ่านไปแล้ว ... ตรงกันข้ามเฟดยังคงรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า เพื่อประเมินทิศทางและแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีมากกว่าครับ

2. เฟดยังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย เพราะเฟดเองยังมองว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ต่ำอาจเกิดมาจากปัจจัยชั่วคราว นอกจากนี้ การตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยของเฟด ก็ไม่ควรที่จะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากฝั่งการเมือง...ถ้าพอจำกันได้ปธน. ทรัมป์ เพิ่งจะทวิตเรียกร้องให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย และกลับไปใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นี้เองครับ

3. เงินดอลลาร์ฯ ไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากหลังผลการประชุมเฟดรอบนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า ผลที่ออกมาค่อนข้างจะสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้แล้ว ... ดังนั้น ตลาดจึงเปลี่ยนไปรอลุ้นเรื่องอื่นๆ แทน เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ รวมไปถึงผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งตอนนี้เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกรอบครับ กลับมาที่บทสรุปเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ ณ เวลานี้ ยังเหมือนเดิมครับ คือ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ น่าจะยืนในกรอบ 2.25-2.50% ไปตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนดอกเบี้ยของไทยนั้น มีโอกาสที่จะยืนที่ 1.75% ในการประชุมวันที่ 8 พ.ค. นี้ และตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วยเช่นกันครับ

#เฟด #ดอกเบี้ยนโยบาย #ทรัมป์

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest