ภัยแล้งปี 2562 อาจลากยาวไปถึงเดือนก.ค.
จากเดิมที่คาดว่าจะสิ้นสุดในเดือนพ.ค. 2562 โดยปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งประเทศลดลง
21.4% YoY โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้ง
น้ำไหลลงเขื่อนมีปริมาณน้อย และแนวโน้มฝนทิ้งช่วงในเดือนมิ.ย.-ก.ค.2562 ซึ่งอาจกระทบผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวนาปรังและอ้อย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ราคาข้าวและอ้อยจะขยับขึ้นต่อเนื่องในช่วงภัยแล้ง
แต่โดยรวมเฉลี่ยทั้งปีอาจยังให้ภาพหดตัว
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการซ้ำเติมรายได้เกษตรกรปีนี้ที่แย่อยู่แล้วให้ลำบากยิ่งขึ้น
โดยหดตัว 2.1-2.4% (YoY)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า
ผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจยาวนานขึ้น 2 เดือน น่าจะอยู่ในวงจำกัด
เพราะยังไม่ถึงฤดูเพาะปลูกพืชสำคัญอย่างข้าวนาปี
รวมถึงระดับความรุนแรงของภัยแล้งน่าจะลดลงกว่าช่วงที่รุนแรงที่สุดในเดือนมี.ค.-เม.ย. ผนวกกับฝนที่อาจมีมาบ้าง แม้ว่าจะเป็นฝนทิ้งช่วงในเดือนมิ.ย.-ก.ค.
ท้ายสุด คาดว่า มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจอาจเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกราวเดือนละ 1,000
ล้านบาท โดยหากภัยแล้งถึงเดือนก.ค. 2562 มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมจะอยู่ที่ราว
17,300 ล้านบาท แต่หากภัยแล้งยาวไปถึงเดือนส.ค.
ซึ่งเป็นฤดูเพาะปลูกข้าวนาปี
มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจก็อาจมากกว่าที่ประเมินไว้
#ภัยแล้ง
#เกษตร
#ข้าว
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น