Display mode (Doesn't show in master page preview)

5 มิถุนายน 2562

อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ กำลังจะเปลี่ยนทิศ?

คะแนนเฉลี่ย

อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ กำลังจะเปลี่ยนทิศ? ดูเหมือนว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มกังวลในเรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-คู่ค้า โดยเฉพาะจีนมากขึ้น

จุดสังเกตหนึ่ง คือ นายพาวเวลเลิกใช้คำพูดว่า จะอดทนต่อการปรับดอกเบี้ย แต่กลับบอกว่า เฟดจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมเพื่อหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ...ตรงนี้ อาจตีความได้ว่า เฟดกำลังเริ่มนึกถึงแผนการผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกครั้ง หลังจากที่ทยอยขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 9 ครั้ง นับตั้งแต่ปลายปี 2558

แม้ว่า นายพาวเวลจะไม่พูดตรงๆ ถึงโอกาสของการปรับลดดอกเบี้ย แต่ความยืดเยื้อของสงครามการค้า จะยิ่งทำให้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า หากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนล้มเหลว และสหรัฐฯ ตัดสินใจขึ้นภาษีในอัตรา 25% กับสินค้าจีนในกลุ่มที่สหรัฐฯ มีการนำเข้า 3.25 แสนล้านดอลลาร์ฯ แล้ว ผลกระทบโดยรวมจากการปรับขึ้นภาษีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.8% และทำให้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยภายในปีนี้มากขึ้น

ณ ขณะนี้ เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group สะท้อนโอกาสที่สูงถึงเกือบ 90% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.นี้ แต่คงต้องยอมรับว่า มุมมองที่สะท้อนจากเครื่องมือนี้อาจปรับเปลี่ยนได้อีกในช่วงหลังจากนี้ตามสถานก ารณ์ในระยะข้างหน้า ซึ่งทำให้เรายังต้องติดตามประเด็นเรื่องสงครามการค้า และสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด...แต่สำหรับดอกเบี้ยบ้านเรานั้น แม้กนง. จะยังไม่เปลี่ยนท่าทีต่อทิศทางดอกเบี้ยในขณะนี้ แต่คงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อการกำหนดแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลังของไท ย

ด้วยเช่นกัน

#ดอกเบี้ย #FED #สงครามการค้า

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น