การประชุมเฟดในวันที่
18-19
มิถุนายน 2562
เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25-2.50%
โดยมีเสียงสนับสนุน 9-1
เสียง (โดย 1
เสียงมีมติสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย) ขณะที่การเปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจรอบการประชุมเดือนมิถุนายน 2562
ยังคงมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ จากประมาณรอบก่อน (มี.ค. 62)
ที่ 2.1%
ขณะที่ปรับคาดการณ์อัตราการว่างงานลงเล็กน้อย สะท้อนว่าเฟดมองเสถียรภาพของเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตาม เฟดได้ปรับลดมุมมองคาดการณ์เงินเฟ้อลงทั้งคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (PCE inflation)
และคาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE)
ลงจากระดับ 1.8%
และ 2.0%
เหลือ 1.5%
และ 1.8%
อันเป็นการยอมรับว่า แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในปีนี้คงอยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2.0%
ในส่วนของมุมมองคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot-plot)
อาจสะท้อนถึงมุมมองอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่เอนไปในทิศทางสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เมื่อเทียบกับ dot-plot
ในรอบมี.ค. 62
ที่เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ (11
เสียงจากทั้งหมด 17
เสียง) ส่งสัญญาณถึงมุมมองที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2562
โดยในรอบนี้ประมาณการอัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟดจำนวน 8
ท่านส่งสัญญาณไปที่การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่เสียงของเจ้าหน้าที่เฟดที่ส่งสัญญาณไปที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมี 8
ท่านเท่ากัน โดย 7
ใน 8
เสียงมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2
ครั้งในปีนี้มีความเหมาะสม ขณะที่ 1
ใน 8
เสียงมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1
ครั้งในปีนี้มีความเหมาะสม
ทั้งนี้ การส่งสัญญาณดังกล่าวของเฟดคงจะเป็นการเปิดช่องว่างในการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า หากความเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจมีสูงขึ้น โดยเฟดได้ปรับเปลี่ยนภาษาในถ้อยแถลงโดยเปลี่ยนจากเดิมที่ เฟดจะอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเฟดพร้อมที่จะดำเนินการอย่างเหมาะสมในการรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจ
#เฟด#ดอกเบี้ยนโยบาย
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น