Display mode (Doesn't show in master page preview)

18 พฤศจิกายน 2564

Econ Digest

2 เดือนส่งท้ายปี 64 คนกรุงฯ อยากเที่ยว...แบบไหน?

คะแนนเฉลี่ย

หลังจากทางการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและการเดินทางข้ามจังหวัด การฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้คนไทยเริ่มเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น จากผลสำรวจชี้ กว่า 73.7% ของกลุ่มตัวอย่างคนกรุงเทพฯ ต้องการเดินทางท่องเที่ยวมากถึงมากที่สุด ซึ่งหากทางการสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ และไม่กลับมาระบาดอีกระลอกอย่างรุนแรงจนกระทบการเดินทาง น่าจะช่วยหนุนทิศทางตลาดไทยเที่ยวไทยในฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะถึงนี้ โดยการฟื้นตัวน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยยังไม่กลับมาพลิกฟื้นเป็นบวก เนื่องจากสถานการณ์โควิดในแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งยังเสี่ยงสูง ขณะที่ในหลายจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งมีมาตรการควบคุมการระบาด โดยนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางมาต้องได้รับวัคซีนตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือหากนักท่องเที่ยวไทยยังไม่ได้รับวัคซีนครบอาจจะต้องตรวจ ATK 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของคนไทย 2 เดือนสุดท้ายปี 2564 การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยอาจจะมีจำนวน 29.1 ล้านคน-ครั้ง หดตัว 14.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ดีขึ้นจากค่าเฉลี่ยต่อเดือน (ม.ค.-ต.ค. 64) ที่ 3.8 ล้านคน-ครั้ง และส่งผลให้คาดว่าทั้งปี 2564 การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยมีจำนวนราว 66.71 ล้านคน-ครั้ง หดตัวราว 26.3% จากปี 2563 นับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยทั้งปี 2564 นี้ น่าจะมีมูลค่าราว 296,895 ล้านบาท หดตัวราว 38.2% จากปี 2563​

ทิศทางตลาดไทยเที่ยวไทยปี 2565 หากไม่มีการระบาดหนักอีกจนทำให้ทางการต้องใช้มาตรการควบคุมเข้มงวดเหมือนในปี 2564 คาดว่าการท่องเที่ยวในประเทศน่าจะโตได้ต่อเนื่อง โดยเบื้องต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะมีจำนวนราว 109-155 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 133.1% จากปี 2564 ขณะที่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยน่าจะมีมูลค่าราว 698,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.9% จากปี 2564

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest