Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 มีนาคม 2563

Econ Digest

บริหารความเสี่ยง เลี่ยงโควิด-19 ค่ายรถยนต์ หยุดสายการผลิต คาดปี 63 ผลิตได้ 1.52 ล้านคัน หรือหดตัว 25%

คะแนนเฉลี่ย
                  จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งไทยเองก็มีผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศในด้านต่างๆ กดดันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างๆที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ทั้งในไทย และอีกหลายภูมิภาคของโลกมีแนวโน้มชะลอลง

                ปัจจัยดังกล่าวมีผลโดยตรงต่อค่ายรถที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ทำให้ปัจจุบันบางค่ายมีการประกาศจะหยุดการเดินสายผลิตรถยนต์เป็นการชั่วคราวแล้ว ขณะที่ค่ายอื่นแม้จะยังไม่ถึงขั้นต้องดำเนินการในลักษณะเดียวกัน แต่ก็อาจต้องมีการปรับลดกำลังการผลิตลงตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงอย่างไม่อาจเลี่ยง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญในประเทศฐานการผลิตรถยนต์ต่างๆทั่วโลก หลังแต่ละค่ายรถต้องบริหารความเสี่ยงทั้งในด้านชิ้นส่วนรถยนต์ ปริมาณยอดขาย และปริมาณการผลิตให้ลงตัวท่ามกลางวิกฤติ ไม่เพียงเท่านั้น ในปีนี้ไทยยังมีกรณีค่ายจีเอ็มซึ่งปกติผลิตรถยนต์กว่า 50,000 คันต่อปี ประกาศขายโรงงานให้แก่ค่ายเกรทวอลล์ ซึ่งเป็นค่ายรถรายใหญ่ของจีนรายหนึ่ง ส่งผลให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ในประเทศของไทยลดลงชั่วคราวด้วยอีกทาง
                จากปัจจัยภายนอกอันรุนแรงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไทยต้องเผชิญไม่ต่างจากนานาประเทศดังกล่าว ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2563 อาจต้องประสบกับภาวะหดตัวลงกว่าร้อยละ 21 ถึง 25 หรือมีปริมาณการผลิตรถยนต์เพียง 1,520,000 ถึง 1,590,000 คัน จากที่ผลิตได้ 2,013,710 คัน ในปีที่ผ่านมา โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่รุนแรงที่สุด คาดว่ามีโอกาสที่การผลิตรถยนต์จะหดตัวสูงถึงกว่าร้อยละ 28 ถึง 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ด้วยตัวเลขการผลิต 740,000 ถึง 770,000 คัน และแม้การแพร่ระบาดจะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 แต่กว่าที่เศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆทั้งในและต่างประเทศจะเริ่มฟื้นคืนสู่ระดับปกติ และทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์ฟื้นตัวขึ้นตามนั้นก็คาดว่าจะเป็นช่วงปี 2564 ไปแล้ว จึงทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ในไทยยังต้องอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการผลิตรถยนต์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะทำได้เพียง 780,000 ถึง 820,000 คัน เท่านั้น คิดเป็นการหดตัวกว่าร้อยละ 14 ถึง 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากฐานที่ต่ำในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 อันเนื่องมาจากสถาบันการเงินเริ่มคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และการส่งออกก็ปรับลดลงมากจากปัญหาเศรษฐกิจคู่ค้าและการแข็งค่าของค่าเงินบาท

        

             อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไทยภายหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย เมื่อพบว่าค่ายรถในไทยต่างยังคงเดินหน้าตามแผนการผลิตเดิมในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้มีการอนุมัติแผนการลงทุนไปแล้วหลายค่าย และรถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นประเภทรถยนต์ที่มีโอกาสขยายตัวได้ดีท่ามกลางสถานการณ์ที่ยอดขายรถยนต์ประเภทอื่นอาจหดตัวลงทั้งหมด นอกจากนี้ การเข้ามาลงทุนของค่ายเกรทวอลล์ซึ่งเป็นเจ้าตลาดรถปิกอัพและ SUV จากจีนด้วยกำลังการผลิตต่อปีกว่า 100,000 คัน โดยมีแผนให้ไทยส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศด้วย น่าจะทำให้การผลิตรถยนต์ของไทยเติบโตได้อีกมากในอนาคต



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest