Display mode (Doesn't show in master page preview)

7 กันยายน 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (7 กันยายน 2564)

คะแนนเฉลี่ย

ตลาดหุ้นไทยรอปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศขยับขึ้นจากการคาดการณ์ว่า สัญญาณคุมเข้มของเฟดอาจไม่เริ่มในเร็วๆ นี้

- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ได้แรงหนุนจากสัญญาณว่าเฟดยังต้องผ่อนคลายนโยบายการเงิน รวมถึงปัจจัยหนุนเฉพาะประเทศ อาทิ ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและจีน 
- อย่างไรก็ตาม หุ้นไทยปิดแดนลบสวนทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย โดยมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นหลายกลุ่ม ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ และสถาบันในประเทศยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง
- ตลาดหุ้นในฝั่งยุโรปปรับขึ้น หลัง QE Tapering ของสหรัฐฯ อาจต้องเลื่อนออกไป และตัวเลขยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีปรับดีขึ้นกว่าคาดตามแรงซื้อจากต่างประเทศ ส่วนตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการวานนี้เนื่องในวันแรงงาน 
- แรงขายเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วน เริ่มเห็นดอลลาร์ฯ ขยับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินฟรังก์
- บอนด์ยีลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ ทรงตัวที่ 1.33% ใกล้เคียงระดับปิดวันศุกร์ บอนด์ยีลด์ตัวยาวของสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุน หลังอัตราค่าจ้างเฉลี่ยของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ด้านราคาน้ำมันดิบตลาด Spot ปรับตัวลดลงตามสัญญาณจากซาอุดีอาระเบียที่ปรับลดราคาให้คู่ค้าในฝั่งเอเชีย อย่างไรก็ดี ราคาอะลูมิเนียมเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ตามความกังวลด้านอุปทานหลังเกิดเหตุความไม่สงบในกินี ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก
- เงินเฟ้อไทยเดือนส.ค.64 ติดลบ -0.02% YoY ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากผลของมาตรการภาครัฐที่ชะลอการปรับขึ้นของราคา อาทิ ค่าธรรมเนียมการศึกษา ไฟฟ้า ประปา ขณะที่ราคาอาหารสดปรับลดลงเช่นกัน 
- ปัจจัยติดตาม ได้แก่ 1) สถานการณ์โควิดในประเทศ ที่แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะปรับลดลง แต่จำนวนผู้เสียชีวิตยังสูง 2) ตัวเลขการส่งออกจีนและตัวเลขจีดีพีของยูโรโซน​

 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest