Display mode (Doesn't show in master page preview)

1 ตุลาคม 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (1 ตุลาคม 2564)

คะแนนเฉลี่ย


สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายงบชั่วคราวทันเวลา ปิดปัญหา government shutdown…แต่ตลาดยังกังวลต่อกับปัญหาเพดานหนี้ ที่ ยังไม่ได้รับการแก้ไข 

- ตลาดหุ้นในโซนเอเชียฟื้นตัวได้ หลังปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่ได้มีปัจจัยหนุนอะไรใหม่เพิ่มเติม โดยข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาอ่อนแอ ปัญหาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังเผชิญความน่ากังวล ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากแรงขายหลักในหุ้นกลุ่มธนาคาร และความกังวลจากสถานการณ์น้ำท่วม 
- ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับเพดานหนี้ ขณะที่ถ้อยแถลงของประธาน Fed ย้ำเรื่องเดิม เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาด แต่ยังน่าจะเป็นภาวะชั่วคราว
- เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ด้าน Bond yield ปรับลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 1.50% 
- ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวสามารถผ่านสภาคองเกรส และปธน. ไบเดนลงนามเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ความกังวลเกี่ยวกับ Government Shutdown จบลง แต่ปัญหาเรื่องเพดานหนี้ยังไม่ถูกแก้ไขและมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น 
- ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นได้ ส่วนน้ำมันปิดผสมผสาน WTI รับข่าวบวกจากจีนเตรียมซื้อน้ำมันเพิ่ม 
- ประเด็นเศรษฐกิจไทย: รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เกี่ยวกับการจ้างงาน คาดว่าช่วยรักษาระดับการจ้างงานได้ประมาณ 5 ล้านคน ด้านรายงานเศรษฐกิจจากธปท. บ่งชี้ว่าเดือนส.ค.ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอจากผลกระทบจากสถานการณ์ lockdown ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันค่าเงินบาทวานนี้ แตะ 33.97 บาทต่อดอลลาร์ฯ เป็นระดับอ่อนค่าสุดรอบ 4 ปี แต่เช้านี้ เงินบาทฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาที่ 33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ (PCE) ดัชนี PMI และประเด็นเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ​

 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest