Display mode (Doesn't show in master page preview)

16 ธันวาคม 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (16 ธันวาคม 2564)

คะแนนเฉลี่ย

​ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ ลุ้นปรับขึ้นตามสหรัฐฯ หลังผลเฟดเป็นไปตามคาด

- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดแดนลบ บรรยากาศการลงทุนเป็นไปอย่างระมัดระวังรอผลการประชุมเฟด ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเช่นกัน โดยมีแรงขายนำในหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร การเงิน และพลังงาน
-ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบจากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโอมิครอน และแรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องเตรียมคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยเงินเฟ้อล่าสุดของอังกฤษ อยู่ที่ 5.1% สูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี  
-ผลการประชุมธนาคารเฟดสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดเพิ่มการปรับลดวงเงินการทำ QE เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 และคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.00-0.25% ตามคาด แต่ส่งสัญญาณผ่าน dot plot ว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ประเมินว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565
-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแดนบวก หลังสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่สภาคองเกรสขยับขึ้นเพดานหนี้สหรัฐฯ ทันเส้นตาย และรอส่งต่อให้ ปธน. ไบเดนลงนาม
-บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปตามแนวโน้มจังหวะการคุมเข้มนโยบายของเฟด  อย่างไรก็ดี  เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย เพราะข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มน้อยกว่าที่ตลาดคาด
- ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาด ส่วนราคาทองคำร่วงลงปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
-ประเด็นที่ต้องติดตามในวันนี้ ได้แก่ 1) การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางยุโรป 2) สัญญาณมาตรการเศรษฐกิจของไทย 3) ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ PMI ของสหรัฐฯ


 



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest