Display mode (Doesn't show in master page preview)

23 ธันวาคม 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (23 ธันวาคม 2564)

คะแนนเฉลี่ย


ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับขึ้น รับแรงกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง แต่ต้องจับตาผู้ติดเชื้อโอมิครอนไทยที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม

- ตลาดหุ้นปรับขึ้น หลังนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงและข่าวลบของโอมิครอนได้ถูกรับรู้ไปพอสมควรแล้ว ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ รวมถึงไทยปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนปิดลดลง เนื่องจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งออกมายอมรับว่ากำลังเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดในระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้น โดยมีแรงหนุนทั้งภาพรวมและหุ้นรายตัว อาทิ หุ้นไฟเซอร์ที่ FDA ของสหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้ยาตัวใหม่เพื่อดูแลผู้ป่วยโควิดฉุกเฉิน และปธน.สหรัฐฯ ยืนยันว่าจะไม่กลับไปใช้การล็อกดาวน์ รวมถึงตัวเลขจีดีพี (Final) ที่ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากรอบก่อนหน้านี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.ที่ออกมาดีกว่าคาด และยอดขายบ้านมือสองเดือน พ.ย.ที่เพิ่มขึ้น
- อย่างไรก็ตาม เงินดอลลารฯ์ ยังเผชิญแรงเทขายต่อเนื่อง หลังนักลงทุนย้ายเงินเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ ดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าหนุนทั้งราคาทองคำและน้ำมัน ประกอบกับตลาดน้ำมันมีแรงหนุนเพิ่มจากข้อมูลสต็อกน้ำมันสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงมากกว่าคาด
- กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% วานนี้ โดยจุดสนใจอยู่ที่การปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 ขึ้น แต่ทบทวนตัวเลขคาดการณ์จีดีพีปี 2565 ลงมาจาก 3.9% มาที่ 3.4% หลังประเมินว่าโอมิครอนจะกระทบภาคการท่องเที่ยวและส่งออก
- ส่วนมาตรการช้อปดีมีคืนรอบใหม่นั้น KResearch คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายค้าปลีกได้ในระดับหนึ่ง โดยเผยผลสำรวจความคิดเห็น (Poll) เกี่ยวกับมาตรการฯ ว่า กลุ่มลูกค้ารายได้สูง ยังรอที่จะใช้จ่ายผ่านมาตรการดังกล่าวอยู่ แม้ว่ากลุ่มลูกค้ารายได้ไม่สูงมากระบุว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวมากนัก เนื่องจากยังเน้นรัดเข็มขัดการใช้จ่าย ขณะที่ สมาคมค้าปลีกมองว่า จะมีเงินสะพัดราว 4-5 หมื่นล้านบาท
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) สถานการณ์โอมิครอนทั้งในและต่างประเทศ 2) ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยอดขายบ้านใหม่ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


 



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest