Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 ธันวาคม 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (30 ธันวาคม 2564)

คะแนนเฉลี่ย

​ตลาดหุ้นไทยระวังแรงขายของนักลงทุนในประเทศส่งท้ายปี

- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่วานนี้เผชิญแรงเทขายทำกำไร โดยมีแรงขายหนักในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นญี่ปุ่น และหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคและธนาคารในตลาดหุ้นจีน ท่ามกลางความกังวลของตลาดเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโอมิครอน
- อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยประคองตัวในแดนบวกได้เกือบทั้งวัน ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ในหุ้น Big Cap กลุ่มแบงก์ ไฟแนนซ์ คอมเมิร์ส และขนส่ง
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ แต่ตลาดหุ้นฝั่งอังกฤษทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก.พ. 2563 เช่นเดียวกับดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์และ S&P500 ของสหรัฐฯ ปรับขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หลังนักลงทุนคลายความกังวลต่อการระบาดของโอมิครอน และผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่อาจไม่รุนแรง แม้ว่าจำนวนเคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจะกระทบหุ้นกลุ่มสายการบินก็ตาม
- บอนด์ยีลด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น (ราคาลดลง) และราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนขายสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงกว่าคาดในการรายงานสัปดาห์ล่าสุด
- ทางการไทยรายงานตัวเลข MPI เดือนพ.ย. วานนี้ ซึ่งล่าสุดยังปรับตัวดีขึ้นทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อส่งออกและบริโภคในประเทศ ขณะที่ ปี 2565 ทิศทางการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง แต่ในอัตราชะลอลงจากผลของฐานที่สูง และแรงซื้อในกลุ่มสินค้า WFH ที่มีมากแล้วในปี 2564 โดยที่ยังต้องติดตามสถานการณ์โอมิครอนที่อาจกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมไทย กอปรกับปัญหาภาวะขาดแคลนแรงงานที่ยังมีอยู่ด้วย
- ปัจจัยติดตามสำคัญวันนี้ ได้แก่ สถานการณ์โอมิครอน และรายงานเศรษฐกิจ ธปท. รวมถึงเครื่องชี้ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ



 



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest