ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้อาจถูกถ่วงลงต่อจากรายงานการประชุม Fed ที่สะท้อนสัญญาณการคุมเข้มนโยบายการเงิน
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่วานนี้เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยถูกกดดันจากแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดหุ้นจีนมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากการเข้าตรวจสอบบริษัทด้านเทคโนโลยี ส่วนหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ China Evergrande ซึ่งจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงเผชิญแรงขายต่อ เนื่องจากมีสัญญาณว่า บริษัทอาจไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ onshore ในวันเสาร์นี้ได้ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและไทยปรับบวกได้เล็กน้อย
- ตลาดหุ้นยุโรปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3 วันติดต่อกันจากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก โดยเฉพาะ NASDAQ ที่ถูกกดดันจากรายงานการประชุม Fed ที่บ่งชี้ว่า Fed อาจคุมเข้มนโยบายการเงินมากและเร็วกว่าตลาดคาดการณ์ โดยที่ตลาดกังวลคือ การที่ Fed เริ่มหารือการบริหารจัดการงบดุล อาจสะท้อนการดึงสภาพคล่องกลับในช่วงการขึ้นดอกเบี้ย
- ราคาทองคำปิดบวกได้เมื่อคืน แต่เป็นช่วงก่อนรายงานการประชุม Fed ขณะที่เช้าวันนี้ นักลงทุนกลับมารับข่าวนี้ และเทขายสัญญาทองคำออกมา ส่วนราคาน้ำมันยังปรับเพิ่มขึ้นต่อ รับมติการประชุม OPEC+ ที่มีการคงแผนการเพิ่มกำลังการผลิต และข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลงมาติดต่อกัน 6 สัปดาห์
- เงินเฟ้อของไทยในเดือนธ.ค. 2564 ชะลอลงมาอยู่ที่ 2.17% YoY ตามทิศทางราคาพลังงาน แต่เมื่อพิจารณารายสินค้า พบว่า ราคาเนื้อสัตว์และผักสดมีการปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อปีนี้ อาจขยับขึ้นสูงกว่าปีที่แล้ว แต่จะยังไม่กดดันต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทย ซึ่งน่าจะยืนที่ 0.50% ตลอดปี 2565
- ปัจจัยติดตาม : จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เร่งสูงขึ้นในไทย ตลอดจน PMI ภาคบริการของจีน อังกฤษ และสหรัฐฯ และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น