Display mode (Doesn't show in master page preview)

11 มกราคม 2565

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (11 มกราคม 2565)

คะแนนเฉลี่ย

​ตลาดหุ้นไทยอาจถูกดดันต่อตามตลาดสหรัฐฯ ที่ปรับลง รับโอกาสเฟดคุมเข้มนโยบายเร็วขึ้น

-  ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกเมื่อวานนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากตลาดญี่ปุ่นปิดทำการ ขณะที่ ตลาดจีนมีแรงซื้อนำในหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคและ Healthcare หลังมีข่าวว่าทางการจีนจะเร่งออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อนำเงินไปกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์โควิดในจีนเพิ่มเติมเนื่องจากทำให้มีการจำกัดกิจกรรมการผลิตและการเดินทางบางส่วน
- ตลาดหุ้นไทยปิดลบ โดยแม้จะมีแรงซื้อสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ แต่ก็มีแรงกดดันกลับจากแรงขายสุทธิของนักลงทุนสถาบัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในประเทศ ที่กระทบหุ้นหลายกลุ่ม อาทิ ท่องเที่ยว โรงแรม และบริษัทประกัน
- ฝั่งตลาดหุ้นยุโรปปรับลง ตามแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคฯ และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โอมิครอน ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลง โดยกังวลกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่อาจขยับเร็วขึ้นมาเป็นในเดือนมีนาคม และนักวิเคราะห์บางส่วนเริ่มมองโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย 4 รอบในปีนี้ พร้อมกับการลดงบดุลของเฟดที่เร็วขึ้น
- เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปีเหนือระดับ 1.80% ก่อนกลับมาปิดที่ 1.78%
- ราคาน้ำมันปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์โอมิครอน อย่างไรก็ดีกรอบขาลงของน้ำมันเป็นไปอย่างจำกัด เพราะมีปัจจัยเฉพาะที่กระทบกำลังการผลิตในคาซัคสถานและลิเบีย
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) สถานการณ์โอมิครอนของไทยที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม ยังสูงกว่าจำนวนหายป่วยกลับบ้าน 2) สัญญาณจากประธานเฟด ซึ่งในวันนี้คณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ จะมีการประชุมเพื่อรับรองการเข้านั่งเป็นประธานเฟดสมัยสองของนายเจอโรม พาวเวล นอกจากนี้จุดสนใจของตลาดวันพรุ่งนี้จะอยู่ที่ข้อมูล CPI ที่จะสะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ


 
 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest