Display mode (Doesn't show in master page preview)

23 มิถุนายน 2564

Econ Digest

เอลซัลวาดอร์ ไฟเขียว "บิตคอยน์" ท่ามกลางหลากปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบ...ที่ต้องติดตาม

คะแนนเฉลี่ย

ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางการเอลซัลวาดอร์ได้เห็นชอบร่างกฎหมายรับรองบิตคอยน์ให้เป็นสกุลเงินที่สามารถนำมาชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย รวมถึงสามารถนำมาชำระภาษีได้ เป็นประเทศแรกของโลก นับว่าเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาให้กับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีทางการหลายๆ ประเทศออกมาห้ามหรือส่งสัญญาณเตือนประชาชนและนักลงทุนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี อันเนื่องจากความเสี่ยงต่อความผันผวนรุนแรง และอาจจะเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย อาทิ จีน อินเดีย ตุรกี หรือแม้แต่ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย

ทางการเอลซัลวาดอร์ได้ให้เหตุผลในการเห็นชอบร่างกฎหมายรับรองบิตคอยน์ในครั้งนี้อยู่ 2 ประการหลัก คือ

  1. ครอบครัวรายได้ต่ำในประเทศจะสามารถรับเงินโอนจากแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศได้มากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ตัวกลางทางการเงินที่สูงถึงราวร้อยละ 10
  2. แรงงานหรือประชาชนที่อยู่นอกระบบเศรษฐกิจ จะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ปัจจุบัน ประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์ที่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐานอย่างการมีบัญชีธนาคารมีเพียงแค่ร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมด




หากวิเคราะห์ถึงเหตุผลเชิงเศรษฐศาสตร์ จะพบว่า เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศหนึ่งที่มีปัญหาเฉพาะเชิงโครงสร้าง สะท้อนจากดัชนีชี้วัดตัวเลขทางเศรษฐกิจและการเข้าถึงบริการทางการเงินของประชากรในประเทศที่มีสถานะด้อยกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ แถบตะวันตก หรือแม้แต่ประเทศไทย โดยเอลซัลวาดอร์มีทั้งสถานะการคลังที่ขาดดุลต่อเนื่อง หนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง อัตราการเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐานยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ประชากรหลายๆ ครอบครัวในประเทศยังคงพึ่งพิงรายได้จากแรงงานที่ไปทำงานในต่างประเทศ ปัจจุบัน รายได้จากแรงงานต่างประเทศสร้างรายได้ให้กับประเทศเอลซัลวาดอร์ถึงราวร้อยละ 22 ของ GDP

สิ่งเหล่านี้จึงอาจเป็นข้อสังเกตสำคัญที่ทำให้ทางการเอลซัลวาดอร์ตัดสินใจใช้ทางเลือกให้บิตคอยน์สามารถชำระหนี้แบบถูกกฎหมายได้ ส่วนหนึ่งน่าจะหวังพึ่งรายได้จากแรงงานนอกระบบเศรษฐกิจ แต่การที่ผู้บริโภคหรือประชากรทั่วไปที่ได้รับเงินบิตคอยน์จากการที่ญาติส่งรายได้กลับมา จะใช้ประโยชน์ในการใช้จ่ายซื้อสินค้าทั่วไปนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เนื่องจากข้อจำกัดของการมีบัญชี หรือเข้าถึงช่องทางธนาคารในประเทศ นอกจากนี้ การใช้บิตคอยน์จำเป็นต้องใช้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีและทักษะความรู้ทางการเงินควบคู่กันไป แถมยังต้องพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้รองรับการใช้งาน รวมถึงยังต้องคอยประเมินความเสี่ยงและควบคุมความเสี่ยงในระบบการเงินอันเนื่องมาจากการใช้บิตคอยน์ ขณะที่ประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์จะต้องคอยประเมินความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจจะเกิดจากความผันผวนของราคาบิตคอยน์ในตลาดซึ่งอยู่ในระดับสูง อันจะมีผลต่อรายรับสุดท้ายที่จะถอนออกมาใช้จ่ายอีกด้วย นอกจากนี้ การนำบิตคอยน์มาใช้ อาจทำให้เป็นเป้าหมายของธุรกรรมสีเทา อันอาจทำให้คู่ค้าของเอลซัลวาดอร์มีความกังวลและกระทบต่อนโยบายการค้าระหว่างกันในอนาคตได้

อย่างไรก็ดี จากการที่ทางการเอลซัลวาดอร์ยังอนุญาตให้ใช้สกุลเงินเดิม และอนุญาตให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินทางเลือกที่ถูกกฎหมาย ทำให้คาดได้ว่าในระยะอันใกล้ คนส่วนใหญ่น่าจะยังคงใช้สกุลเงินเดิมเป็นหลัก ทำให้ผลของการใช้บิตคอยน์ต่อเศรษฐกิจจริงน่าจะมีจำกัด ทั้งนี้ การที่ทางการเอลซัลวาดอร์ประกาศใช้บิตคอยน์แบบถูกกฎหมาย สวนทางกับทางการประเทศอื่นๆ ที่ยังคงคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงอันจะเกิดแก่ประชาชนและนักลงทุนจากการใช้หรือซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยความไม่เข้าใจอย่างเต็มที่นั้น จึงทำให้เอลซัลวาดอร์เป็นกรณีศึกษาของผลกระทบจากการใช้บิตคอยน์ในประเทศที่คงต้องติดตามต่อไปถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น  ขณะที่เหตุผลทางเศรษฐกิจและความจำเป็นที่แตกต่างกัน ทำให้การตัดสินใจของทางการแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันตามไปด้วย ดังนั้น จึงอาจไม่ใช่ทุกประเทศที่จะเดินตามแนวทางของเอลซัลวาดอร์ในขณะนี้​




Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest