Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 พฤษภาคม 2563

Econ Digest

+2.12% ส่งออกเมษายน 2563 แม้คู่ค้าปิดเมือง แต่อาหารและอิเล็กทรอนิกส์ ยังเป็นที่ต้องการ

คะแนนเฉลี่ย
​​        มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือน เม.ย. 2563 อยู่ที่ 18,948.2 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 2.12% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2  สวนทางกับมุมมองของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว 4.6% เนื่องจากหลายประเทศคู่ค้าหลักมีมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ที่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออก โดยการส่งออกที่ขยายตัวมาจากปัจจัยชั่วคราว ได้แก่ (1) การส่งออกทองคำที่โตถึง 1,103% จากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นมาก หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในเดือน เม.ย. 2563 แต่เมื่อหักมูลค่าส่งออกทองคำแล้ว การส่งออกจะหดตัว 10.3% (2) การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ขยายตัว 6.8% ซึ่งได้อานิสงส์จากมาตรการทำงานที่บ้าน (Work from home) ที่ทำให้ความต้องการคอมพิวเตอร์เพิ่มสูงขึ้น (3) การส่งออกสินค้าในหมวดอาหารที่ขยายตัว 10.6% จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งนำเข้าอาหารเพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนในประเทศ (4) การส่งกลับเครื่องบินพาณิชย์ไปยังประเทศสายการบินต้นทางอย่างอินโดนีเซียและออสเตรเลีย เนื่องจากไทยมีมาตรการจำกัดการเข้าออกประเทศตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค. 2563

           ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2563 ยังคงหดตัว 5.6% แม้ว่าการส่งออกสินค้าอาหารและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวดีในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จากความต้องการชั่วคราวของโลกในช่วงวิกฤติสุขภาพ ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอยและยังมีความเสี่ยงที่จะหดตัวมากขึ้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดในแต่ละประเทศไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ การปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลกที่ทำให้ห่วงโซ่การผลิตชะงักงัน ก็น่าจะยังเป็นปัจจัยที่ทำให้การส่งออกสินค้าไทยในช่วงที่เหลือของปี 2563 มีแนวโน้มหดตัว



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest