Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 กันยายน 2562

Econ Digest

จีนดัน...เงินดิจิทัล CBDC แทนเงินสดจับตา...บทบาทเงินหยวนในตลาดโลก

คะแนนเฉลี่ย
​           ธนาคารกลางจีนเตรียมออกเงินดิจิทัลในชื่อ Central Bank Digital Currency (CBDC) ที่มีเงินหยวนรองรับในอัตรา 1:1 มุ่งหมายให้ประชากรจีนทั่วไปใช้แทนเงินสด  โดยธนาคารกลางจีนเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหน่วยเงินดิจิทัลให้แก่ธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการในชั้นต้น และธนาคารพาณิชย์กับผู้ให้บริการ จะให้บริการฝากถอนเงินในรูปแบบเงินดิจิทัลแก่ประชาชนทั่วไปอีกต่อหนึ่ง
            แม้ว่า CBDC ได้ชื่อว่าเป็นเงินดิจิทัล แต่มีความแตกต่างจาก Bitcoin หรือเงินคริปโทเคอร์เรนซีรายอื่น ตรงที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นตัวขับเคลื่อนทั้งหมด โดยเฉพาะจำนวนธุรกรรมที่ทางการจีนตั้งเป้าไว้สูงถึง 300,000 รายการต่อวินาที และการบริหารอุปทานของ CBDC ถูกรวมศูนย์ไว้โดยธนาคารกลางจีนแต่เพียงผู้เดียว โดยมีจุดน่าสนใจในการทำธุรกรรมรายย่อยระหว่างประชาชนกับร้านค้าทั่วไปที่กำหนดให้ไม่มีการเชื่อมโยงชื่อบุคคลกับสินค้าที่ซื้อในร้านค้า เป็นต้น
            ทำไมทางการจีนถึงต้องการออกเงินดิจิทัลของตน? ประการแรก จากการที่ Facebook มีแผนการออกเงินคริปโทเคอร์เรนซี Libra ที่มีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินตราสกุลอื่นๆ หนุนหลังโดยไม่มีเงินหยวน อาจทำให้เงินหยวนถูกบั่นทอนอิทธิพลในตลาดโลก ประการที่สอง จีนสามารถใช้ CBDC ป้องกันปัญหาการฟอกเงินได้ แต่ด้วยเงื่อนไขที่ CBDC ต้องได้รับความนิยมมากกว่าเงินสดและแอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
​            ​ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเงินดิจิทัล CBDC มีแนวโน้มจะได้รับการยอมรับและใชัอย่างแพร่หลายโดยผู้บริโภคและผู้ประกอบการจีน ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ค้าขายกับประเทศจีนอาจจะต้องเร่งศึกษา​วิธีการเชื่อมต่อระบบของตนเข้ากับ CBDC เพื่อรองรับการชำระเงินให้แก่ลูกค้าชาวจีนอีกช่องทางหนึ่ง


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest