Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 พฤศจิกายน 2562

Econ Digest

คาด...โค้งสุดท้ายส่งออกไทย ปี 62 ไม่กระเตื้อง

คะแนนเฉลี่ย
           การส่งออกสินค้าของไทยเดือนต.ค. 2562 หดตัว -4.54% YoY ทำให้ภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยช่วง 10 เดือนแรกปีนี้หดตัวเพิ่มขึ้นจากช่วง 9 เดือนแรกมาที่อยู่ที่ -2.35% YoY ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกเดือนต.ค. หดตัวคือ การชะลอตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก ผลจากสงครามค้าสหรัฐฯ กับจีน การส่งออกทองคำพลิกกลับมาหดตัวหลังขยายตัวสูงมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และผลของฐานราคาน้ำมันดิบโลกที่สูงในปีก่อน 
           การส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ 4.8% YoY โดยสินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี บางส่วนเป็นสินค้าที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน ชี้ให้เห็นว่า ไทยได้รับอานิสงส์จากการส่งออกสินค้าไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ ในขณะที่การส่งออกสินค้าไปจีนกลับมาหดตัวอีกครั้งที่ -4.2% YoY จากการหดตัวของการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเป็นหลัก 
​            ​ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการมูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าไทยปี 2562 ลงมาอยู่ที่ -2.5% และ -5.0% ตามลำดับ โดยมองว่าการส่งออกและนำเข้าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ยังมีแนวโน้มหดตัว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว สงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนยังไม่แน่นอน ค่าเงินบาทยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาคซึ่งกระทบความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย สำหรับทิศทางการส่งออกปี 2563 จะยังคงเผชิญความกดดันจากเศรษฐกิจหลักของโลกที่ชะลอตัว ค่าเงินบาทที่มีทิศทางแข็งค่า สงครามการค้าและ BREXIT ยังมีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ยังต้องติดตามเรื่องการตัดสิทธิ์ GSP ของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้การส่งออกของไทยปี 2563 ยังมีความเสี่ยงที่จะหดตัวอยู่



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest