Display mode (Doesn't show in master page preview)

9 กันยายน 2562

Econ Digest

นักลงทุนย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ระลอกใหม่ !!! ...จะมาไทย?

คะแนนเฉลี่ย
​          ความไม่แน่นอนสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี และไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดใน
ระยะเวลาอันใกล้ ได้ส่งผลต่อการลงทุนของต่างชาติในจีน โดยธุรกิจกลุ่มแรกๆ ที่มีการย้ายฐานการผลิตเป็นธุรกิจที่อยู่ในขั้นปลายน้ำของห่วงโซ่การผลิต แต่มีฐานการผลิตกระจายอยู่ในประเทศอื่นๆ ได้เพิ่มกำลังการผลิตในประเทศที่มีความพร้อมทั้งในแง่ของการมีผู้รับจ้างผลิตสินค้าหรือประเทศที่บริษัทแม่มีฐานการผลิตอยู่แล้ว กับอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นธุรกิจที่มีฐานผลิตหลักในจีนและไม่มีฐานผลิตอื่นในภูมิภาค ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ปรับตัวได้จำกัด แต่ด้วยสงครามการค้าที่ยังไม่มีทีท่าจะจบลง ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้เริ่มคิดแผนการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนระลอกใหม่

           ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การกระจายการลงทุนออกจากจีนระลอกใหม่นี้ อาจมีมูลค่าสูงถึงราว 30,000-35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีในช่วงระยะเวลาภายใน 2-3 ปีนับจากนี้ และประเทศที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดคือเวียดนามและเม็กซิโก ซึ่งผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคขั้นปลายน้ำ
ที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น การประกอบสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ค เสื้อผ้าและรองเท้า ขณะที่
สินค้าขั้นกลางน้ำบางส่วนที่ใช้เทคโนโลยีเข้มข้น อาจเกิดการย้ายฐานการผลิตกลับไปยังประเทศที่ถือครองเทคโนโลยีนั้นๆ อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวัน 

           ​สำหรับไทยนั้น สัดส่วนของเม็ดเงินการลงทุนที่คาดว่าจะได้รับในการย้ายฐานการผลิตระลอกใหม่อาจอยู่ในระดับที่จำกัดเมื่อเทียบกับระลอกแรก อันเนื่องมาจากข้อได้เปรียบของฐานการลงทุนเดิมที่มีอยู่ โดยเฉพาะบรรษัทสัญชาติญี่ปุ่นเริ่มลดทอนบทบาทลง โดยอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มย้ายหรือกระจายฐานการผลิตระลอกใหม่มาไทยคาดว่าจะอยู่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์ จอมอนิเตอร์ รวมถึงกลุ่มของเล่น ดังนั้น หากไทยต้องการดึงดูดอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพจากจีน ไทยต้องมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบเฉพาะเจาะจงที่ตอบสนองต่อรูปแบบการกระจายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest