Display mode (Doesn't show in master page preview)

17 กันยายน 2562

Econ Digest

เดือด! โจมตี...โรงกลั่นซาอุฯ ทำราคาน้ำมันดิบพุ่ง อาจดันเงินเฟ้อปี 62 เพิ่ม 0.3%

คะแนนเฉลี่ย
            ให้ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับ 1 ของโลก สูญเสียกำลังการผลิตไปราว 58.2% ของกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดของซาอุฯ และคิดเป็น 5.7% ของกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

            1) กรณีฐานซาอุดีอาระเบียไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกจะสูงขึ้นในระยะสั้น และจะค่อย ๆ ลดลงสู่ระดับเดิม ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉพาะในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. 2562 โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 4 เดือนหลังปีนี้ จะปรับเพิ่มขึ้น 0.05% จากประมาณการเดิม ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2562 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.84%
 
              2) กรณีที่ซาอุดีอาระเบียใช้ความรุนแรงตอบโต้ ราคาน้ำมันดิบโลกจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2562  ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในระดับที่สูงขึ้นที่กรอบ 70-80 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลในช่วง 3-4 เดือนที่เหลือของปีนี้ ทำให้ราคาขายน้ำมันดีเซลในประเทศขยับขึ้นมาที่ระดับใกล้เคียง 30 บาทต่อลิตร ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในช่วง 4 เดือนสุดท้ายปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า จาก 0.72% มาอยู่ที่ 1.48% และหนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี 2562 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.08% หรือปรับเพิ่มขึ้น 0.3% 

               ​นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่สูงขึ้นจะทำให้การค้าระหว่างประเทศของไทยปี 2562 เกินดุลลดลงราว 1,231 ล้านดอลลาร์ฯ ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้ลดลงราว 0.2-0.3% ขึ้นอยู่กับนโยบายดูแลราคาพลังงานในประเทศของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การเกินดุลการค้าที่ลดลงอาจช่วยบรรเทาแรงกดดันของค่าเงินบาทที่แข็งค่าจากการเกินดุลการค้าของไทยที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest