Display mode (Doesn't show in master page preview)

6 พฤษภาคม 2564

Econ Digest

ทิศทางการใช้จ่าย สินค้าอาหารและเครื่องดื่มปี 64 ขึ้นกับ...สถานการณ์โควิด การกระจายวัคซีน และมาตรการภาครัฐ

คะแนนเฉลี่ย

โควิด-19 ระลอกสาม จะฉุดรั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภคในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มปี 2564 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในกรณีฐาน หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า (จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ใกล้เคียงกับสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมี.ค. หรือก่อนที่จะมีการระบาดระลอก 3 หรือเฉลี่ยไม่เกิน 100 ราย/วัน) และการกระจายวัคซีนเป็นไปตามแผน และมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี การใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในประเทศอาจมีมูลค่า 2.48 ล้านล้านบาท หรือโต 0.5% 

ในกรณีเลวร้าย หากสถานการณ์ลากยาวไปมากกว่า 3 เดือนนี้ หรือมีการแพร่ระบาดที่เป็นคลัสเตอร์กลุ่มใหม่ การกลับมาฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคคงเป็นไปได้ยาก และทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้นจนอาจไม่สามารถประคับประคองสภาพคล่องไปได้มากกว่า 2 ปีติดต่อกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้น มูลค่าการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในประเทศ มีโอกาสที่จะหดตัว -2.5% 

สินค้าที่น่าจะประคับประคองยอดขายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน (ขยายตัว 0-1%) คือกลุ่มอาหาร อาทิ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ข้าว เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ น่าจะหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน ทั้งนี้ การปรับตัวของผู้ประกอบการคงอยู่ที่การลดต้นทุนการผลิต/ค่าใช้จ่าย หรือชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็น เพื่อพยุงสภาพคล่องให้ผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากไปได้ ส่วนโอกาสภายใต้วิกฤตนั้น ในด้านการผลิตต้องยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าและบริการให้กับลูกค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง แปลกใหม่ มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวด้านการดำเนินงาน เป็นต้น


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest