เศรษฐกิจไทยครึ่งแรกปี 64 ขยายตัวดีกว่าคาด จากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 7.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากปัจจัยฐานต่ำและการส่งออกที่เร่งตัวขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 2.0% ในครึ่งปีแรก แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพียง 0.4% สะท้อนความอ่อนแรงจากการระบาดของโควิด 19 อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงและลากยาวขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือน ก.ค. ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ จากเดิมที่ 1.0% มาเป็น -0.5% โดยคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะแตะระดับสูงสุดในเดือน ก.ย. และจะค่อยๆ ลดจำนวนลง แต่กว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้หรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 1,000 คนต่อวัน คาดว่าจะไม่เร็วไปกว่าไตรมาสที่ 4 ทั้งนี้ รัฐบาลน่าจะคงมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดต่อไปไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตามมา ขณะที่ มาตรการเยียวยาแก่กลุ่มผู้ประกอบการและลูกจ้างในธุรกิจคงช่วยชดเชยผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ แม้อาจมีการทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในบางธุรกิจ แต่หากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงสูง ในขณะที่จำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนครบโดสยังไม่สูงมาก ก็จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยในปีนี้อาจลดลงกว่าที่คาดไว้เดิม ในขณะที่ภาคการผลิตเผชิญความเสี่ยงเพิ่มจากการระบาดในโรงงาน และอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยอาจทำให้เกิดภาวะสินค้าขาดตลาดในบางช่วงจังหวะเวลา อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และอียู ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า น่าจะยังส่งผลให้การส่งออกไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวได้ในระดับสูง
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น