Display mode (Doesn't show in master page preview)

18 สิงหาคม 2563

Econ Digest

หดตัวลึก -12.2% เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2563 คาดทั้งปีหดตัวมากกว่า -6.0%

คะแนนเฉลี่ย
             เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2563 หดตัวที่ -12.2% (น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ -13.0% ถึง -17.0%) เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ที่พลิกกลับมาขยายตัวในไตรมาสนี้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท ต่อเนื่อง 3 เดือน ในโครงการ ‘เราไม่ทิ้งกัน’ขณะที่อัตราการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ในไตรมาส 2/2563 ทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำ และงบประมาณรายจ่ายลงทุน ก็สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวได้ดี ส่งผลให้ภาคก่อสร้างยังคงขยายตัวได้ในไตรมาส 2/2563 
 
              ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะหดตัวลึกสุดในไตรมาส 2/2563 และทยอยหดตัวน้อยลงในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความไม่แน่นอนสูง จากปัจจัยได้แก่ (1) เศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น จากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ และประเด็นการเมืองในสหรัฐฯ (2) แรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นตามสภาวการณ์ของเศรษฐกิจโลก และ (3) ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ

               ​ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนดังกล่าว ภาครัฐน่าจะมีมาตรการดูแลเศรษฐกิจต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยที่ยังคงอ่อนแรง โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่คาดว่ามุ่งเน้นที่จะช่วยสนับสนุนการจ้างงาน ดูแลผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการรายเล็กเป็นหลัก ซึ่งทาง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จะคอยติดตามมาตรการที่จะออกมาเพื่อนำไปประเมินอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะมีการปรับประมาณการใหม่ โดยในเบื้องต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะหดตัวมากกว่าคาดการณ์ที่ -6.0% 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest