Display mode (Doesn't show in master page preview)

19 พฤศจิกายน 2563

Econ Digest

สหรัฐฯ เดินเกมตัดสิทธิ GSP กระทบไม่มาก...แต่ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพ

คะแนนเฉลี่ย
ปี 2563 สหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP ไทย 2 ครั้ง รวมเป็นมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็น 45% ของมูลค่าส่งออกที่ใช้สิทธิ GSP โดยยังเหลือสินค้าอีกครึ่งหนึ่งจำนวน 644 รายการ คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 2,615 ล้านดอลลาร์ฯ ที่ยังได้รับสิทธิ GSP อยู่ ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าส่งออกค่อนข้างสูง มีศักยภาพการผลิตค่อนข้างแข็งแกร่ง ใช้วัตถุดิบในไทยเป็นหลัก ครองส่วนแบ่งการนำเข้าของสหรัฐฯ ในลำดับต้นๆ ยากที่คู่แข่งในอาเซียนจะแข่งได้ อย่างไรก็ดี การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้สินค้ามีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ยังเป็นหัวใจสำคัญที่รัฐฯ และผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

การตัดสิทธิ GSP ครั้งแรกในเดือนเม.ย. 2563 มีมูลค่ารวม 1,600 ล้านดอลลาร์ฯ ไม่กระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ในปี 2563 เพราะได้แรงหนุนจากการส่งกลับสินค้าเพื่อการซ้อมรบ ความต้องการสินค้าเพื่อ Work From Home และสินค้าเพื่อป้องกันโควิด-19 ทำให้การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ปี 2563 น่าจะโตได้ที่ 6.4% มูลค่าส่งออกราว 33,300 ล้านดอลลาร์ฯ สำหรับการตัดสิทธิ GSP สินค้าไทยครั้งที่ 2 ที่จะมีผลทางภาษีในปี 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 231 รายการ คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 601 ล้านดอลลาร์ฯ มีผลกระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2564 ค่อนข้างน้อย เนื่องจากคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.8% ของมูลค่าการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ในปี 2562

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ปี 2564 ไม่น่าจะหลุดจากกรอบที่เคยประเมินไว้ว่าถ้าหากนายโจ ไบเดนได้เป็นผู้นำคนใหม่ การส่งออกจะขยายตัวได้ที่ 10-12% มูลค่าส่งออกราว 36,700-37,300 ล้านดอลลาร์ฯ หรือถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ได้บริหารประเทศต่อ การส่งออกน่าจะโตเป็นบวกได้ใกล้เคียง 5.0% มูลค่าส่งออกราว 35,000 ล้านดอลลาร์ฯ แต่การตัดสิทธิ GSP ก็ทำให้ผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าสหรัฐฯ ต้องแบกรับภาระต้นทุนภาษีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าไทยที่ต้องแข่งขันรุนแรงกับคู่แข่งในอาเซียน ซึ่งผู้ประกอบการไทยคงต้องรับภาระไว้ค่อนข้างมากเพื่อให้ราคาสามารถแข่งขันได้ 






                                                                                                                                               ​          ขอบคุณภาพจาก  Shutterstock.com


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest