Display mode (Doesn't show in master page preview)

4 กันยายน 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
  สถานการณ์ Brexit ที่ล่าสุดความเสี่ยงลดลงมาบางส่วน หลังพรรครัฐบาลสูญเสียเสียงข้างมากในสภา ซึ่งอาจทำให้พรรคฝ่ายค้านสามารถสกัดโอกาสการแยกตัวจากสหภาพยุโรปโดยไร้ข้อตกลงได้ รวมถึงประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังจากปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความกดดันให้จีนรีบทำข้อตกลง นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดด้วยเช่นกัน




เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงเล็กน้อยวานนี้ (3 ก.ย.) สอดคล้องกับเงินหยวน และสกุลเงินเอเชียอื่นๆ หลังจากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีความตึงเครียดมากขึ้น 
ส่วนเช้าวันนี้ (4 ก.ย.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 30.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ** หลังข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐฯ กดดันเงินดอลลาร์ฯ ให้อ่อนค่าลง




ตลาดหุ้นไทยปิดลบ โดยเผชิญแรงเทขายเพื่อลดสถานะความเสี่ยง ท่ามกลางความกังวลต่อปัจจัยต่างประเทศ
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน ตลาดยังคงรอติดตามประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกได้เล็กน้อยโดยมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน ส่วนตลาดหุ้นจีนปรับขึ้น จากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลง โดยมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตเดือนส.ค. โดย ISM ซึ่งหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี




ราคาน้ำมันลดลง หลังข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงเกินคาด กระตุ้นความกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ

ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.               


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest