ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
ประเด็นความเสี่ยง BREXIT ซึ่งมีความกังวลว่า โอกาสของการเกิด BREXIT แบบไร้ข้อตกลงเพิ่มสูงขึ้น พัฒนาการของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดย Baker Hughes ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค.
เงินบาทตลาดในประเทศแข็งค่าขึ้นวานนี้ (8 ส.ค.)
สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
ส่วนเช้าวันนี้ (9
ส.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ใกล้ๆ ระดับประมาณ 30.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ**
ขณะที่กรอบการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ฯ ยังคงจำกัดในระยะนี้ เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้า ตลอดจนแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ
สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร
ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยรวมปิดบวก
จากการเปิดเผยข้อมูลส่งออกเดือนก.ค. ของจีนที่ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งช่วยคลายความกังวลต่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจและผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะที่
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ข้อมูลตลาดแรงงานที่ออกมาดีกว่าคาด และการฟื้นตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังจากโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกอาจมีการหารือกันในเดือนหน้า
ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการลดกำลังการผลิต
เพื่อรับมือกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ส่วนราคาทองคำปรับลดลงเล็กน้อย หลังเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น