Display mode (Doesn't show in master page preview)

16 สิงหาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

  สถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งล่าสุดทางการจีนได้แสดงจุดยืนว่าจะออกมาตรการตอบโต้ที่จำเป็นต่อสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสถานการณ์ในฮ่องกง สถานการณ์ BREXIT รวมถึงข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดย Baker Hughes ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. (เบื้องต้น)  




เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงต่อเนื่องวานนี้ (15 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นและพันธบัตรไทยอย่างหนัก ท่ามกลางแรงกดดันต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

ส่วนเช้าวันนี้ (16 ส.ค.) เงินบาททรงตัวอยู่ใกล้ๆ ระดับ 30.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ** ส่วนเงินดอลลาร์ฯ ยังแข็งค่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก โดยมีแรงหนุนจากยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด  ​






ตลาดหุ้นไทยปิดลบ ตามแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเพื่อลดสถานะความเสี่ยง นอกจากนี้ ยังมีแรงฉุดจากหุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร

ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ส่วนตลาดหุ้นจีน ปรับขึ้นตามแรงหนุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปะปน ทั้งนี้ DJIA มีแรงหนุนจากข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนก.ค.และผลประกอบการของบริษัทวอลมาร์ทที่ออกมาดีกว่าคาด ส่วน NASDAQ ถูกฉุดจากหุ้นบริษัทซิสโก้ หลังการเปิดเผยยอดขายในตลาดจีนซึ่งทรุดตัวลง ​







ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ขณะที่ ราคาทองคำยังขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังลต่อความเสี่ยงและสัญญาณอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก


ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest