Display mode (Doesn't show in master page preview)

23 กันยายน 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
  สถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า การเจรจาระดับรมช. ของทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และยืนยันว่าการประชุมระดับรัฐมนตรีจะจัดขึ้นในเดือนต.ค. ตามกำหนดการเดิม ซึ่งทิศทางดังกล่าวช่วยคลายความกังวลในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาลงบางส่วน นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ประเด็น BREXIT รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนก.ย. ของสหรัฐฯและยูโรโซน



เงินบาทตลาดในประเทศ แข็งค่าขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ก.ย.) ขณะที่แรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ (ที่ขยับขึ้นหลังการประชุมเฟด) เริ่มจำกัดลง และนักลงทุนรอจับตาสถานการณ์ของข้อพิพาททางการค้าสหรัฐฯ-จีน

ส่วนเช้าวันนี้ (23 ก.ย.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 30.46-30.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศสัปดาห์นี้ น่าจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. ช่วงกลางสัปดาห์ ​




ตลาดหุ้นไทยปิดลบ โดยมีแรงฉุดจากการเปิดเผยตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนส.ค.ซึ่งหดตัวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้นจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในเดือนหน้า ส่วนตลาดหุ้นจีนปรับขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลประเด็นการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนอีกครั้ง หลังเจ้าหน้าที่จีนยกเลิกแผนการเดินทางไปรัฐมอนทานาและรัฐเนบราสกาเพื่อพบปะกับเกษตรกรสหรัฐฯ  ​



ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง ขณะที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลกับสัญญาณน่าผิดหวังของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา

​​

ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.    

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest