ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
ประเด็นการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งล่าสุดปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าสหรัฐฯ อาจบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีนได้เร็วกว่าคาด สถานการณ์ BREXIT หลังมีรายงานข่าวว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมเสนอให้มีการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงปัจจัยทางการเมืองภายในสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 2/62 (ครั้งสุดท้าย) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนส.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
เงินบาทตลาดในประเทศ อ่อนค่าลงวานนี้ (25 ก.ย.) อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถลดช่วงติดลบ และพลิกกลับมาแข็งค่าได้ในช่วงบ่ายก่อนปิดตลาด หลังจากกนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไว้ที่ 1.50% ตามเดิม แม้จะมีการปรับทบทวนตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ลงมาที่ 2.8% ก็ตาม
ส่วนเช้าวันนี้ (26 ก.ย.) เงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวที่
30.60
บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวกของประเด็นการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค จากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน โดยตลาดหุ้นฝั่งเอเชียปิดลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมืองสหรัฐฯ รวมถึงความไม่แน่นอนในประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น หลังจากที่ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าสหรัฐฯ อาจบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีนเร็วกว่าคาด พร้อมระบุว่าจีนต้องการทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เกิดความคาดหวังในเชิงบวกต่อผลการเจรจาระหว่างสองประเทศอีกครั้ง
ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง หลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย
ส่วนราคาทองคำปรับลดลง รับสัญญาณเชิงบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นก็เป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมันและราคาทองคำด้วยเช่นกัน
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น