Display mode (Doesn't show in master page preview)

29 สิงหาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​​​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

  พัฒนาการของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งมาตรการตอบโต้ทางภาษีรอบใหม่ระหว่างกันจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆนี้ สถานการณ์ Brexit ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแยกตัวออกมาโดยไม่มีข้อตกลง รวมถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของอาร์เจนตินา ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2562 ดัชนีขายบ้านที่รอการปิดขายเดือนก.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์




เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลง (28 ส.ค.) สอดคล้องกับการอ่อนค่าของสกุลเงินในภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ จ​า​ก

นประเทศในช่วงใกล้สิ้นเดือน

ส่วนเช้าวันนี้ (29 ส.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 30.60-30.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ**




ตลาดหุ้นไทยปิดบวก นำโดย หุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันโลก แม้จะมีแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและบัญชีหลักทรัพย์ก็ตาม

ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน โดยรวมตลาดหุ้นฝั่งเอเชียแกว่งตัวในกรอบแคบ จากความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนซึ่งยังมีความไม่แน่นอน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และพลังงาน แต่บรรยากาศการซื้อขายยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงประเด็นสงครามการค้า




ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงถึง 10 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ราคาทองคำลดลงสวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น ​​



ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest