Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 กรกฎาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

  ปัจจัยสำคัญน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (30-31 ก.ค.) การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน และสถานการณ์ Brexit ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญวันนี้ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนมิ.ย. รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.




เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน (26 ก.ค.) ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นโดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด

ส่วนเช้าวันนี้ (30 ก.ค.) เงินบาทกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับ 30.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ** โดยตลาดรอติดตามสัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากการประชุมเฟด และการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน​





ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ประกอบกับมีแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน

ตลาดหุ้นต่างประเทศโดยรวมปิดลบวานนี้ (29 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ระหว่างรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และความคืบหน้าการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ ดัชนี DJIA ปิดบวกเล็กน้อย โดยมีแรงหนุนเข้ามาในหุ้นรายใหญ่บางตัว





ราคาน้ำมันดิบ และราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากความตึงเครียดในช่องแคบฮอร์มุซที่ยังคงมีอยู่ด้วยเช่นกัน


ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest