ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
ความคืบหน้าประเด็นเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งล่าสุดทางการจีนเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างหารือเพื่อจัดการเจรจาการค้ารอบใหม่ ประเด็นความเสี่ยง Brexit รวมถึงข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดย Baker Hughes ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index
เงินบาทตลาดในประเทศทรงตัวในกรอบแคบวานนี้ (29 ส.ค.)
แต่ขยับแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อยจากวันก่อนหน้า ตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคและเงินหยวน ประกอบกับมีแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ
ส่วนเช้าวันนี้ (30 ส.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 30.63-30.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ**
ตลาดหุ้นไทยปิดบวก
โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบกับมีแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน
โดยรวมตลาดหุ้นฝั่งเอเชียถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้าและประเด็น
Brexit
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ท่ามกลางความคาดหวังต่อการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน จากถ้อยแถลงเชิงบวกของโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน
ราคาน้ำมันปิดบวก ขณะที่
ราคาทองคำลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความคาดหวังในเชิงบวกต่อโอกาสของการกลับมาเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ
ที่ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น