Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 กันยายน 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​​​​​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
  รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนส.ค. ของธปท. ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนก.ย. ของจีน รวมถึงข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งล่าสุดมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณาจำกัดการลงทุนของสหรัฐฯในจีน นอกจากนี้ ตลาดยังคงรอประเมินสถานการณ์ BREXIT ซึ่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษยังคงยืนยันถึงการนำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปตามกำหนดเดิม และสถานการณ์ตึงเครียดในฮ่องกงอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ​



เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงปลายสัปดาห์ก่อนหน้า (27 ก.ย.) ตามสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ยังได้รับแรงหนุนในช่วงตลาดเอเชียจากสัญญาณเชิงบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

ส่วนเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 30.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (รายงานเมื่อวันศุกร์) ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด​






ตลาดหุ้นไทยปิดบวก โดยมีแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดไตรมาส 3/2562
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดลบในภาพรวม โดยแม้ตลาดหุ้นจีนจะปิดบวกเล็กน้อยตามแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ประเด็นการเมืองภายในของสหรัฐฯ ยังคงกดดันบรรยากาศการซื้อขายของตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเช่นกัน หลังมีรายงานข่าวว่าทำเนียบขาวเตรียมพิจารณาจำกัดการลงทุนของสหรัฐฯ ในจีน ซึ่งรวมถึงการเพิกถอนบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ​



นมา โดยตลาดยังถูกกดดันจากการที่ซาอุดีอาระเบียสามารถฟื้นกำลังการผลิตน้ำมันได้เร็วกว่าที่คาด ประกอบกับมีข่าวลือว่า สหรัฐฯ อาจยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านเพื่อแลกกับการเจรจา อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้วในเวลาต่อมา ส่วนราคาทองคำลดลง ท่ามกลางแรงขายทำกำไรสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุน ​


ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest