Display mode (Doesn't show in master page preview)

31 กรกฎาคม 2562

Econ Digest

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนประจำวันนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:

   ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนนี้ สถานการณ์ระหว่างการเจรจาการค้ารอบใหม่ของสหรัฐฯ-จีน หลังจากปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความล่าสุดในเชิงโจมตีจีน ประเด็นความเสี่ยงจาก BREXIT รวมถึงรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ของ EIA ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP




เงินบาทแข็งค่าขึ้นวานนี้ (30 ก.ค.) สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ เริ่มชะลอลง เนื่องจากตลาดรอติดตามผลการประชุมเฟด 

นอกจากนี้ เงินบาทยังแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ซึ่งเผชิญแรงขายท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ BREXIT

ส่วนเช้าวันนี้ (31 ก.ค.) เงินบาททรงตัวในกรอบแคบๆ ใกล้แนว 30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ**  ​




ตลาดหุ้นไทยปิดลบ สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค จากความกังวลว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 จะออกมาในทิศทางที่ค่อนข้างอ่อนแอ

ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน ตลาดฝั่งเอเชียโดยรวมปิดบวก แต่นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขาย ระหว่างรอผลการประชุมเฟดและการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-จีน อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในเวลาต่อมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเจรจา หลังปธน. ทรัมป์ทวีตข้อความในเชิงโจมตีจีน




ราคาน้ำมันดิบ และราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมคืนนี้


ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย

หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท.  **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.                             

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest