Pre-cast ตอบโจทย์การขาดแคลนแรงงานในธุรกิจก่อสร้าง

อุตสาหกรรมการก่อสร้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในอนาคต เนื่องจากที่ผ่านมา อุตสาหกรรมก่อสร้างในไทยมีการใช้แรงงานจำนวนมาก (Labor-intensive) แต่จากปัญหาขาดแคลนแรงงานก่อสร้างในช่วงหลัง ทำให้ธุรกิจก่อสร้างต้องมองหาวิธีการก่อสร้างที่ใช้แรงงานน้อยลง โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีการก่อสร้างเข้ามาทดแทน  ซึ่งเทคโนโลยที่น่าจะช่วยแก้ปัญหาข้างต้นได้คือ การก่อสร้างแบบใช้วัสดุสำเร็จรูปยกมาติดตั้ง (Pre-fabrication or Pre-cast Construction) ซึ่งมีการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างอาคารสำเร็จรูปจากโรงงาน เช่น เสา คาน พื้น ผนัง แล้วยกมาติดตั้งที่สถานที่ก่อสร้าง โดยงานก่อสร้างรูปแบบนี้ปัจจุบันมีการใช้งานอยู่แล้ว ในกลุ่มอาคารที่พักอาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และ ทาวน์เฮ้าส์  ซึ่งวิธีการก่อสร้างแบบนี้ จะทำให้ต้นทุนรวมของโครงการก่อสร้างลดลงโดยเฉลี่ย 15% ต่อโครงการ จากการลดการใช้แรงงา​นประมาณ 50% และระยะเวลาก่อสร้างที่เร็วขึ้นประมาณ 30%

ปัจจุบันการก่อสร้างรูปแบบ Pre-cast นิยมใช้ในงานก่อสร้างเอกชนที่เป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบ มูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งในปี 2563 มีมูลค่าการก่อสร้างประมาณ 1.39 แสนล้านบาท คิดเป็น 11% ของมูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด และมีสัดส่วนโครงการที่ใช้งาน Pre-cast ต่อจำนวนโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบเอกชนทั้งหมด อยู่ที่ประมาณ 48% โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สัดส่วนงานก่อสร้างที่จะใช้งานก่อสร้างรูปแบบ Pre-cast ในกลุ่มอาคารที่พักอาศัยแนวราบของเอกชน น่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3% จนถึงปี 2568 และทำให้สัดส่วนโครงการที่ใช้ Pre-cast โตขึ้นเป็ น 63%  อันเป็นผลมาจากแรงงานก่อสร้างที่หาได้ยากขึ้น และมีค่าแรงที่สูงขึ้น