Display mode (Doesn't show in master page preview)

12 กรกฎาคม 2564

Econ Digest

ค้าปลีกปี 64คาดหดตัว 2% E-Commerceยังขยายตัวดี

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อการค้าปลีกในช่วงที่เหลือปีนี้ โดยคาดว่าครึ่งหลังปี 2564 ยอดค้าปลีกจะหดตัวเล็กน้อยที่ 0.2% (YoY) และทั้งปีจะหดตัวต่อเนื่องที่ 2.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน สิ่งที่ต้องจับตาคือการฉีดวัคซีนในช่วง 2-3 เดือนจากนี้ (มิ.ย.-ก.ย.) และไม่มีการระบาดระลอกใหม่ที่รุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงที่เหลือของปีโดยเฉพาะไตรมาส 4 และเมื่อบวกกับมาตรการภาครัฐ เช่น คนละครึ่งเฟส 3 และมาตรการเพิ่มเติมภายใต้ พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ทำให้ยอดค้าปลีกในภาพรวมปี 2564 อาจมีทิศทางดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้​าอาหารและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน (FMCG)

E-Commerce เป็นแพลตฟอร์มที่น่าจะยังคงขยายตัวดีโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการอัดแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่การแข่งขันในแพลตฟอร์มดังกล่าวน่าจะรุนแรงขึ้นอีก จากจำนวนผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับจำนวนของผู้บริโภคที่มีศักยภาพหรือมีกำลังซื้อที่ไม่ได้เพิ่มขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ช่วงครึ่งหลังปี 2564 ยอดค้าปลีกออนไลน์จะขยายตัว 13.7% ดีกว่าครึ่งปีแรกเล็กน้อย ส่งผลให้คาดว่ายอดค้าปลีกออนไลน์ทั้งปี 2564 น่าจะยังขยายตัวที่ 12.6% ขณะที่ค้าปลีก Modern trade ที่เน้นขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง ของตกแต่งบ้าน น่าจะยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่อง 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในช่วงที่เหลือปีนี้ ผู้ประกอบการอาจจะเผชิญความท้าทายเรื่องต้นทุนธุรกิจหรือราคาสินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งโดยปกติธุรกิจการค้าในลักษณะซื้อมาขายไปไม่น่าจะถูกกระทบ แต่ในยามที่สถานการณ์ไม่ปกติ กำลังซื้อผู้บริโภคเปราะบาง การแข่งขันด้านราคาสูง ผู้ประกอบการมีมากราย การจะผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งหมดไปยังผู้บริโภคเป็นไปได้ยาก ดังนั้น อาจต้องยอมลดผลกำไร พร้อมกับทำการตลาด/โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้พอมีกระแสเงินสดเข้ามาหล่อเลี้ยงกิจการ รวมถึงมาตรการที่ช่วยเหลือทั้งฝั่งผู้บริโภคและผู้ประกอบการของภาครัฐยังเป็นสิ่งจำเป็นภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากนี้



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest