Display mode (Doesn't show in master page preview)

8 มิถุนายน 2564

Econ Digest

มาเลเซียล็อกดาวน์ ส่งออกไทย…ยังไปต่อ

คะแนนเฉลี่ย

มาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ประเทศเต็มรูปแบบระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1-14 มิ.ย.2564 จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หวนกลับมารุนแรงอีกครั้ง มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ต่ำกว่า 7,000 คนต่อวัน มาตรการดังกล่าวส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของมาเลเซียกลับมาหยุดชะงัก ยิ่งทำให้การบริโภคของมาเลเซียที่มีสัดส่วนถึง 70% ของ GDP ฟื้นตัวล่าช้าออกไปอีก โดยในปี 2563 ที่ผ่านมาโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจมาเลเซียหดตัว 5.6% ซึ่งความหวังของเศรษฐกิจมาเลเซียในช่วงที่เหลือของปี คงต้องรอติดตามผลการกระจายวัคซีนที่ปัจจุบันมียอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกของมาเลเซียอยู่ที่ 9% จากจำนวนประชากร 32 ล้านคน

                การปิดเมืองในครั้งนี้หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นจนต้องขยายเวลามาตรการดังกล่าวออกไป จะยิ่งทำให้กำลังซื้อและเศรษฐกิจมาเลเซียอ่อนแรงลง กระทบความต้องการสินค้าหลักในระยะสั้นอย่างน้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ อย่างไรก็ดี ในภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไปมาเลเซียในปี 2564 ไม่น่าจะกระทบมากนัก เนื่องจากสินค้าไทยยังคงเป็นที่ต้องการของมาเลเซียที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสินค้าเพื่อการผลิตที่จำเป็นในช่วงนี้และสินค้ากลุ่มอาหาร โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี การส่งออกไทยไปมาเลเซียเติบโตถึง 47.8% YoY ซึ่งในบรรดาตลาดส่งออกของไทยในกลุ่มประเทศอาเซียน มาเลเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทย รองจากเวียดนาม นับว่ามาเลเซียมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้จากการส่งออกด้วยสัดส่วน 4.5% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย โดยในปัจจุบันมาเลเซียพึ่งพาการนำเข้าสินค้าไทย 4.3% ของการนำเข้าทั้งหมด โดยมีสินค้าหลายรายการพึ่งพาไทยในสัดส่วนที่สูง อาทิ ยางพารามาเลเซียนำเข้าจากไทยถึง 51% ของการนำเข้ายางพาราทั้งหมด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตถุงมือยางที่มาเลเซียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก สำหรับสินค้าอื่นๆ ได้แก่ ยางล้อรถยนต์ (32% ของการนำเข้ายางล้อรถยนต์) ถุงมือทางการแพทย์ (45% ของการนำเข้าถุงมือฯ) อุปกรณ์ตู้เย็น (29% ของการนำเข้าอุปกรณ์ตู้เย็น) ไก่แปรรูป (63% ของการนำเข้าไก่แช่เย็น) ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกของไทยไปมาเลเซียในปี 2564 จะเติบโตที่ใกล้เคียง 12% มีมูลค่าส่งออกราว 12,755 ล้านดอลลาร์ฯ

สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ชายแดนไทยกับมาเลเซียยังคงฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดเติบโตในอัตรา 2 หลัก ซึ่งการค้าชายแดนมาเลเซียมีบทบาทสำคัญคิดเป็น 45% ของการส่งออกของไทยไปมาเลเซียทั้งหมด การเติบโตของช่องทางนี้จึงมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการส่งออกในภาพรวม โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกชายแดนไทยไปมาเลเซียปีนี้จะเติบโตที่ไม่ต่ำกว่า 20% แตะมูลค่าราว 151,000 ล้านบาท แม้การล็อกดาวน์ในครั้งนี้อาจกระทบกำลังซื้อในภาพรวมชะลอลง แต่ไม่ส่งผลต่อการขนส่งสินค้าข้ามแดน รถขนส่งสามารถขนสินค้าได้ปกติ อีกทั้งสินค้าที่ส่งผ่านช่องทางนี้หลายรายการเป็นสินค้าสำคัญต่อการใช้ชีวิตวิถีใหม่ อาทิ ยางพาราและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทั้งสองสินค้าใช้ช่องทางส่งผ่านชายแดนถึงกว่า 80% ของการส่งออกสินค้าดังกล่าว ทำให้ในปีที่ผ่านมามูลค่าการค้าชายแดนไทยหดตัวเพียง 2% อีกทั้งในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ก็กลับมาขยายตัวถึง 72.2%

ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่พรมแดนของไทยอาจเป็นเรื่องที่ต้องกังวลใจมากกว่า กว่าจะฟื้นตัวคงต้องรอให้สถานการณ์โควิด-19 ของทั้งไทยและมาเลเซียคลี่คลาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งรายได้หลักจากชาวมาเลเซียที่ข้ามพรมแดนมาจับจ่ายสินค้าไทย ซึ่งสถานการณ์ในเวลานี้นับว่าซบเซาต่อเนื่องตั้งแต่เกิดโควิด-19 ในปีก่อนมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปิดให้คนข้ามแดนได้ ​





Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest