ผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกสาม จะฉุดรั้งมูลค่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มปี 2564 ส่งผลให้ผู้ประกอบการยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการเพิ่มยอดขายในปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในกรณีฐาน หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า (โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ใกล้เคียงกับสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมี.ค. หรือก่อนที่จะมีการระบาดระลอก 3 หรือเฉลี่ยไม่เกิน 100 ราย/วัน) ตลอดจนการกระจายวัคซีนเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้และมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี มูลค่าการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในประเทศอาจมีมูลค่า 2.48 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 0.5% ในกรณีเลวร้าย หากสถานการณ์ถูกลากยาวไปมากกว่าภายในช่วง 3 เดือนนี้ หรือมีการแพร่ระบาดที่เป็นคลัสเตอร์กลุ่มใหม่ การกลับมาฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคคงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งยังทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนอาจไม่สามารถประคับประคองสภาพคล่องมากกว่า 2 ปีติดต่อกันได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้น มูลค่าการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในประเทศ จึงมีโอกาสที่จะหดตัวไปอยู่ที่ระดับ -2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยกลุ่มสินค้าที่น่าจะประคับประคองยอดขายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน (หรือขยายตัวอยู่ในกรอบ 0-1%) คือกลุ่มอาหาร อาทิ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ข้าว เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน แต่ในกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อย่าง น้ำอัดลม น้ำผลไม้ น่าจะเป็นกลุ่มสินค้าที่ยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน จากกำลังซื้อที่เปราะบาง การแข่งขันทางธุรกิจสูงและมีกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นทั้งนี้
ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงสวนทางกับกำลังซื้อที่มีจำกัด การปรับตัวของผู้ประกอบการคงอยู่ที่การลดต้นทุนการผลิต/ค่าใช้จ่าย หรือชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน เพื่อพยุงสภาพคล่องให้ผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากไปได้ ส่วนโอกาสทางธุรกิจภายใต้วิกฤตนั้น การผลิตจำเป็นต้องยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าและบริการให้กับลูกค้ามากขึ้น ภายใต้การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง แปลกใหม่ มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวด้านการดำเนินงาน เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น