ยอดคงค้างเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือ หนี้ครัวเรือนของไทย ขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 12.827 ล้านล้านบาทในไตรมาส 4/2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับการเร่งตัวขึ้นของสินเชื่อรายย่อยหลายๆ ประเภท ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รวมถึงสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นถึง 2.2% QoQ ต่อเนื่องจากที่ขยับขึ้น 1.5% QoQ ในไตรมาส 3/2561 โดยแม้ครัวเรือนส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ หรืออาจจะมีการใช้บริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อรองรับการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของแต่ละปีตามผลของปัจจัยด้านฤดูกาล มากกว่าช่วงอื่นๆ แต่คงต้องยอมรับว่า ในไตรมาส 4/2561 ที่ผ่านมา มีปัจจัยเฉพาะ ซึ่งก็คือ การปรับเกณฑ์การกำหนดการวางเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านที่มีผลทำให้ครัวเรือนบางกลุ่มเร่งตัดสินใจก่อหนี้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ก่อนที่มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย. 2562
ภาพรวมหนี้ครัวเรือนในปี 2561 กลับมาเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ขยับขึ้นไปที่ 78.6% ในปี 2561 จาก 78.3% ในปี 2560 โดยยอดคงหนี้ครัวเรือนของไทยเติบโตขึ้น 6.0 % สูงกว่าอัตราการเติบโตของมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ (Nominal GDP) ซึ่งอยู่ที่ 5.6% อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่า กว่าครึ่งหนึ่งของหนี้ที่ครัวเรือนรับภาระเพิ่มขึ้นนั้น ก่อให้เกิดสิทธิความเป็นเจ้าของในทรัพย์สิน เช่น ซื้อบ้าน-ซื้อรถ และขยายธุรกิจ ในท้ายที่สุด ขณะที่ สัดส่วนการก่อหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภค (ที่ไม่มีหลักประกัน) ทั้งในส่วนหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับภาพรวมของยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนทั้งหมด
สำหรับแนวโน้มหนี้ครัวเรือนในปี 2562 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในปี 2562 อาจทรงตัวในกรอบประมาณ 77.5-79.5% ต่อจีดีพี จากระดับ 78.6% ต่อจีดีพีในปี 2561 โดยภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงในปีนี้ เมื่อผนวกกับภาระหนี้ของครัวเรือนที่น่าจะเพิ่มขึ้นจากผลของการก่อหนี้ก้อนใหญ่ (หนี้บ้านและหนี้รถ) ที่มีผลผูกพันหลายปีนับจากวันที่ก่อหนี้ อาจมีผลทำให้ครัวเรือนหลายส่วนใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นในการก่อหนี้ก้อนใหม่ สำหรับประเด็นในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สัญญาณอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่มีโอกาสทรงตัวที่ระดับ 1.75% ตลอดช่วงที่เหลือของปี อาจมีส่วนช่วยลดทอนแรงกดดันจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นต่อครัวเรือนที่มีภาระหนี้ลงมาบางส่วน ในขณะที่ ยังต้องติดตามมาตรการด้านเศรษฐกิจภายใต้การดำเนินการของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งคาดว่า น่าจะเข้ามาช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ และดูแลแก้ไขปัญหาด้านรายได้-ภาระหนี้ ของครัวเรือน โดยเฉพาะครัวเรือนในกลุ่มที่มีรายได้น้อย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น