จากปัญหาความกังวลใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับความเสี่ยงในการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารตามแนวทางเกษตรกรรมรูปแบบเดิมที่พึ่งพิงการใช้สารเคมีค่อนข้างมาก ทำให้ผู้คนต่างหันมาสนใจแนวทางการบริโภคตามวิถีธรรมชาติบำบัดกันมากขึ้น เนื่องจากกระแสรักษ์สุขภาพ (Health Conscious) และความใส่ใจของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ รวมทั้งมาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดของประเทศผู้นำเข้าอาหาร ส่งผลให้เกิดระบบเกษตรกรรมที่คำนึงถึงระบบนิเวศน์เป็นหลักภายใต้แนวทาง ;เกษตรอินทรีย์” ทำให้ที่ผ่านมาความต้องการบริโภคอาหารอินทรีย์ขยายตัวมากทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้เกษตรอินทรีย์เป็นตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Segmentation Market) ซึ่งผู้บริโภคเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ความตระหนักในด้านสุขอนามัยและมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันเกษตรอินทรีย์ยังมีข้อจำกัดในการผลิตซึ่งยังไม่สามารถผลิตในลักษณะเกษตรกรรมขนาดใหญ่ได้ ทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์มีราคาสูง สำหรับตลาดเกษตรอินทรีย์เน้นส่งออกเป็นหลัก ส่วนตลาดในประเทศผู้บริโภคเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงเช่นกัน ขณะที่การผลิตเกษตรอินทรีย์ของไทยยังคงเผชิญอุปสรรคสำคัญโดยเฉพาะปัญหาการรับรองมาตรฐานการผลิตตามหลักเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่เชื่อถือในระดับสากล แต่หากภาครัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างลุล่วง จะเป็นโอกาสดีของไทยในการขยายตลาดสินค้าอาหารอินทรีย์ไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนให้ไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก (Kitchen of The World) และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารของไทยต่อไป สินค้าอาหารอินทรีย์ที่ไทยมีโอกาสขยายตลาดสูง ได้แก่ ข้าวอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์อินทรีย์ ผลิตภัณฑ์ประมงโดยเฉพาะกุ้งอินทรีย์ ผักและผลไม้อินทรีย์ เครื่องเทศและสมุนไพรอินทรีย์ ชาและกาแฟอินทรีย์ เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น