ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ แนวโน้มที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประเภทบ้านปลูกสร้างเองในช่วงปี 2552 ภายใต้ข้อสมมติ สถานการณ์ 2 กรณี คือ กรณีพื้นฐาน (Base Case) แม้ว่ารัฐบาลชุดใหม่สามารถผลักดันนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาสู่ภาคเอกชนและผู้บริโภค อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลง รวมถึงราคาวัสดุก่อสร้างที่ทรงตัว แต่เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ยังคงอ่อนแอ รวมถึงสถาบันการเงินเพิ่มความระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อ จึงคาดว่าจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จประเภทปลูกสร้างเองในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2552 หดตัวลงร้อยละ13.6 จากปี 2551
สำหรับกรณีเลวร้าย (Worst Case) เป็นสถานการณ์ที่ปัจจัยลบทางการเมืองส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคตของประชาชน ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านออกไป และวิกฤตการเงินที่อาจจะกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง และอาจจะสร้างอุปสรรคการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งคาดว่าจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จประเภทที่อยู่อาศัยปลูกสร้างเองในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2552 หดตัวลงร้อยละ18.2 จากปี 2551
สำหรับแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2552 นี้ คงจะเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก เมื่อธุรกิจโดยรวมยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงต้องรอดูรายละเอียดและเงื่อนไขว่าจะครอบคลุมกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตามตลาดรับสร้างบ้านยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนการขยายตัวของธุรกิจ เช่น ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับลดลง สามารถที่จะช่วยให้ผู้บริโภคที่มีความต้องการสร้างบ้านและมีความพร้อมด้านการเงิน อาจจะตัดสินใจเร็วขึ้น เพียงแต่ผู้ประกอบการอาจจะต้องทำการศึกษาวิจัย ตลาดมากขึ้น เพื่อนำมาช่วยในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาด และการออกแบบที่อยู่อาศัย เพื่อให้สอดคล้อง เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม การแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพื่อขยายฐานธุรกิจของตน เช่น การหันมาเน้นการปรับปรุง ซ่อมแซมหรือต่อเติมที่อยู่อาศัย เป็นต้น
ตลอดจนการรักษาคุณภาพมาตรฐานการก่อสร้าง ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านอาจจะต้องใส่ใจกับลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันลูกค้ามีความใส่ใจในเรื่องที่อยู่อาศัยมากขึ้น ลูกค้ามักจะทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นแบบบ้าน ความคงทนของวัสดุก่อสร้างแต่ละประเภท รวมถึงราคาวัสดุก่อสร้าง จากคนรอบข้างหรือจากศูนย์ข้อมูลต่างๆ เช่น จาก เว็บไซต์ ควบคู่ไปกับการปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านควรจะซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการยังคงสามารถที่จะรักษาส่วนแบ่งของตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดใหม่เพิ่มขึ้นได้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น