ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การจับจ่ายซื้อสินค้าและของฝากของคนกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 น่าจะสร้างยอดขายให้กับธุรกิจค้าปลีกไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีโอกาสเติบโตสูง และน่าจะมีความคึกคักมากขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มห้างสรรพสินค้า และร้านจำหน่ายของฝาก ซึ่งเป็นกลุ่มที่คนกรุงเทพฯเลือกที่จะซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากที่สุด
แม้ว่าผู้บริโภคยังต้องเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาสินค้าและราคาน้ำมัน ที่ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในปัจจุบันสูงขึ้น แต่คาดว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็น่าจะทำให้การใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯกลับมาคึกคักมากขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจภายหลังที่เผชิญกับปัญหาอุทกภัย แนวโน้มการขึ้นค่าครองชีพที่อาจจะทำให้ตลาดมีการตื่นตัวจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การทำกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้นก็น่าจะจูงใจให้ผู้บริโภคเกิดการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งการทำกลยุทธ์ทางการตลาดไม่เพียงแต่จะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ตั้งใจจะซื้อสินค้าและของฝากโดยตรง อาจจะดึงดูดให้กลุ่มคนที่ยังไม่สนใจ หรือยังไม่ตัดสินใจซื้อสินค้าและของฝากเกิดสนใจและตัดสินใจซื้อสินค้าแบบฉับพลัน ณ จุดขาย ซึ่งผู้ประกอบการค้าปลีกก็อาจจะมีโอกาสทำรายได้จากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้นั้น จะต้องเน้นรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจมากขึ้น อาทิ จัดทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้าที่เป็นสินค้ายอดฮิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การเปิดหรือวางจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่อาจจะปรับเปลี่ยนฤดูเป็น Themes summer 2012 จัดบู๊ท/กิจกรรมที่สืบสานประเพณีสงกรานต์เทศกาลสงกรานต์ รวมถึงการจัดสถานที่ให้ได้บรรยากาศของเทศกาลสงกรานต์ เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น