โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนับได้ว่าเป็นนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญอันหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานในพื้นที่ชุมชน
และสร้างรายได้เสริมให้เกิดแก่ชุมชน ผ่านการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเพื่อเป็นเชื้อเพลิง โดยโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทชีวมวลน่าจะทำให้เกษตรกรในปัจจุบันได้รับประโยชน์สูงสุดจากการขายวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้แก่โรงไฟฟ้าชุมชนได้
โดยเฉพาะวัสดุทางการเกษตรที่รวบรวมได้จากแปลงเพาะปลูก
ซึ่งยังไม่ได้รับการนำมาใช้ประโยชน์เท่าที่ควร ขณะที่ภาครัฐก็พยายามสนับสนุนให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชุมชนใช้ชีวมวลดังกล่าวเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร
อย่างไรก็ดี
การใช้ชีวมวลจากพื้นที่เพาะปลูกอย่างเดียวก็อาจทำให้เกิดข้อจำกัดด้านขนาดของโรงไฟฟ้าที่จะลงทุน
ส่งผลให้ผู้ประกอบการขาดแรงจูงใจที่จะลงทุน ดังนั้น การผสมผสานชีวมวลจากทั้งแปลงเพาะปลูกและโรงงานแปรรูป
ตลอดจนให้ชุมชนและโรงงานแปรรูปเข้ามามีส่วนร่วมทุน น่าจะเป็นแนวทางที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจของตนได้
ขณะเดียวกันก็สามารถตอบสนองเจตนารมณ์ของโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะสร้างความมั่งคั่งให้แก่เกษตรกร
โรงไฟฟ้าชุมชนแบบชีวมวลผสมผสานจะส่งผลให้ผู้ประกอบการได้กำไรต่อปีเพิ่มขึ้น
และระยะเวลาคืนทุนมีแนวโน้มลดลง โดยที่โรงไฟฟ้าชุมชนแบบผสมผสานชีวมวล 3 MW จะก่อให้เกิดกำไรราว 14.6 ล้านบาท
และระยะเวลาคืนทุน 8.2 ปี ในขณะที่โรงไฟฟ้าขนาด 10 MW จะมีกำไรราว
57.1 ล้านบาท และระยะเวลาคืนทุน 7 ปี
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น