แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จะเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคหันมารับชมการแสดงโชว์ และการแข่งขันกีฬาผ่านช่องทางออนไลน์แบบปกติบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น โดยหากผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายใหญ่ไทยนำเทคโนโลยีความจริงเสมือน (Virtual Reality: VR) มาประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคโนโลยี 5G จะช่วยพัฒนาประสบการณ์รับชมออนไลน์ได้ใกล้เคียงกับการรับชมในสถานที่จริง และเติมเต็มอรรถรสได้ดีกว่าการรับชมผ่านช่องทางออนไลน์แบบปกติ ซึ่งคาดว่าจะสร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโดยรวมกว่า 1.7 พันล้านบาท หรือเพิ่มการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมดังกล่าวราวร้อยละ 0.64 ต่อปี และผลักดันผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่บุกเบิกธุรกิจบันเทิงเสมือนจริง (VR Entertaining Business) เข้าสู่การเป็นผู้นำตลาดการถ่ายทอดสดโชว์และการแข่งขันกีฬาออนไลน์
ทั้งนี้ กลยุทธ์การบุกเบิกตลาดจะต้องไม่มองเพียงการทำพันธมิตรทางธุรกิจกับค่ายเพลงหรือทีมกีฬาภายในประเทศ แต่จะต้องจับมือทำพันธมิตรทางการค้ากับผู้จัดระดับสากล โดยคาดว่ากลุ่มเป้าหมายแรกที่จะเริ่มหันมาใช้บริการน่าจะเป็นกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการรับชมการจัดแสดงโชว์และการแข่งขันกีฬาในสถานที่จริงอยู่แล้ว เนื่องจากสามารถนำเสนอประสบการณ์รับชมได้ใกล้เคียงกับการรับชมในสถานที่จริง ส่วนกลุ่มเป้าหมายรองลงมา คือกลุ่มผู้บริโภคที่มีอุปสรรคในการเดินทาง ซึ่งเทคโนโลยี VR สามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคดังกล่าว เนื่องด้วยสามารถรับชมศิลปินที่ตนเองชื่นชอบได้จากที่พักอาศัย อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางเพื่อมารับชมในสถานที่จัดแสดง
เนื่องด้วยตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 80 ต่อ GDP จึงสามารถสะท้อนว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มหดตัวลงตามภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการโทรคมนาคมในประเทศไทย อาจต้องพิจารณาหาแนวทางการตลาดที่เหมาะสมมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการ โดยในเบื้องต้นผู้ประกอบการอาจเปิดให้ทดลองใช้งานฟรีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคุณภาพบริการของธุรกิจบันเทิงเสมือนจริง ซึ่งคาดว่า ผู้ชมจะพึงพอใจในการรับบริการ อันเนื่องจากประสบการณ์รับชมที่เต็มอรรถรสใกล้เคียงกับการรับชมในสถานที่จัด และมีแนวโน้มกลับมาใช้งานต่อไปในอนาคต
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น