ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2554 นับได้ว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยมีทิศทางที่เปลี่ยนไปจากการคาดการณ์ของหลายฝ่าย โดยสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เกิดจากการที่ภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิต และภาคการบริโภค ได้รับ ผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งร้ายแรงในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ รวมไปถึงกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ของ นิคมอุตสาหกรรมสำคัญหลายแห่ง จึงสร้างความถดถอยทางเศรษฐกิจและความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาลอย่างที่ ไม่เคยปรากฎมาก่อน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินแนวโน้มความสูญเสียทางเศรษฐกิจ (Economic Losses) ว่า อุทกภัยครั้งนี้อาจ สร้างความสูญเสียต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี เป็นมูลค่าสุทธิ 242,200-330,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.3-3.1 ของจีดีพี โดยภาคอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายหนักที่สุด มีมูลค่าประมาณ 171,900- 234,900 ล้านบาท (หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 70 ของความเสียหายทั้งหมด) ผลดังกล่าวจึงอาจจะฉุดให้เศรษฐกิจใน ไตรมาสที่ 4/2554 หดตัวลงถึงร้อยละ 3.3 จากเดิมที่เคยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.9 ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกร ไทย จึงประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2554 ลงมาเหลือเพียงร้อยละ 1.5 จากเดิมที่เคยคาดว่าอาจ ขยายตัวร้อยละ 3.8 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ต่างจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมากนัก ที่ชี้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ของไทย ไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) จะขยายตัวติดลบร้อยละ 3.7 และจีดีพีทั้งปีน่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 1.4 สำหรับภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผล กระทบอย่างหนักนั้นแบ่งออกได้เป็นรายอุตสาหกรรมดังนี้
ที่มา : วารสาร K-Connect
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น