ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม เป็นไปตามคาด โดยรัฐบาลพรรคเสรีประชาธิปไตยนำโดยนายชินโซ อาเบะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีกครั้ง และเมื่อรวมกับพรรคร่วมรัฐบาล KOMEITO ด้วยคะแนนเสียงที่มากกว่า 2 ใน 3 จะทำให้การเข้ามาบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่สามารถดำเนินนโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างคล่องตัว โดยปัจจัยท้าทายของรัฐบาลชุดใหม่ยังอยู่ที่เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ หนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง และการถูกปรับลดระดับความน่าเชื่อถือโดยมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ที่อาจจะส่งผลถึงความเชื่อมั่นด้านการค้าและการลงทุนของประเทศ ตลอดจนกดดันค่าเงินเยนในทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี ในปี 2558 การฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าสำคัญที่นำโดยสหรัฐฯ และคำสั่งซื้อสินค้าในจีนที่คาดว่าจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง รวมไปถึงการอ่อนค่าของเงินเยน จะสนับสนุนให้ภาคการค้าระหว่างประเทศหรือการส่งออกของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ขณะเดียวกันการลงทุนก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น รวมไปถึงการเลื่อนเวลาปรับขึ้นภาษีการบริโภคไปเป็นปี 2560 จะช่วยประคองโมเมนตัมการใช้จ่ายภาคเอกชนให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2558 น่าจะขยายตัวดีขึ้นจากที่เติบโตร้อยละ 0.7 ในปี 2557 มาอยู่ที่ขยายตัวร้อยละ 1.0
จากแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นข้างต้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นในปี 2558 น่าจะทรงตัวในระดับเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นในปี 2558 จะขยายตัวอยู่ที่กรอบร้อยละ -0.2 ถึง 1.5 หรือมีมูลค่าส่งออกราว 17,670-22,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (มูลค่าการส่งออกในปี 2557 ประมาณ 22,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 0.6 (YoY)) ในขณะที่การนำเข้าของไทยจากญี่ปุ่นในปี 2558 น่าจะกลับมาเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4 ถึง 8 หรือมีมูลค่าการนำเข้าราว 37,530-38,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (มูลค่าการนำเข้าในปี 2557 ประมาณ 36,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 12.2 (YoY)) โดยสินค้าส่งออกของไทยในตลาดญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มเติบโตในปี 2558 อยู่ในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบขั้นต้น/กลาง ที่น่าจะเติบโตตามการนำเข้าของญี่ปุ่นในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก สำหรับสินค้าส่งออกในกลุ่มอุปโภคบริโภคของไทยในปี 2558 คาดว่าจะยังได้รับผลกระทบจากภาคการบริโภคของญี่ปุ่นที่ยังหดตัว
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น